ปลานิล เป็นพันธุ์ปลาที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานให้กับกรมประมงเพื่อให้เพาะเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์ให้คนไทยได้รับประทานเป็นแหล่งอาหารโปรตีนจากปลาที่สำคัญ จากการเลี้ยงเพื่อยังชีพ สู่อาชีพที่มั่นคง ปลานิลถูกพัฒนาจากสายพันธุ์ดั้งเดิมสู่สายพันธุ์ที่มีมาตรฐานเพื่อการบริโภคมากขึ้นทั้งสายพันธุ์จิตรลดา 1, 2, 3 และ 4 เป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีกันอย่างต่อเนื่อง จากภาครัฐสู่เอกชน ปลานิลจึงเป็นปลาที่ได้รับความสนใจเลี้ยงมากที่สุดชนิดหนึ่งของประเทศ หนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับการเลี้ยงปลานิลคือ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา หากติดตามข่าวการรับประทานปลานิลในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีมานี้ จะได้ยินคำว่า "ปลานิลสายน้ำไหล" ปลานิลคุณภาพระดับพรีเมียม ที่หลายคนบอกว่ามีโอกาสจะต้องไปลองกินสักครั้ง
ปลานิลสายน้ำไหล คือน้ำที่ใช้เลี้ยงมาจากน้ำธรรมชาติของยอดเขา เลี้ยงด้วยระบบสายน้ำไหลตามธรรมชาติ โดยใช้น้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ปลาที่ถูกเลี้ยงในหุบเขา ใช้น้ำจากน้ำตก จัดการน้ำแบบขั้นบันได หมุนเวียนในบ่อตลอดเวลา และใช้เวลาเลี้ยงยาวนานกว่าปลานิลทั่วไป ทำให้ได้ปลาตัวใหญ่ เนื้อดี ไม่มีกลิ่นดิน นำไปรังสรรค์เมนูไหนก็อร่อย จะทอด นึ่ง เผา หรือแม้กระทั่ง ซาซิมิ มีที่เบตง เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ลืมรสชาติปลานิลแบบเดิมที่เคยรับประทานไปได้เลย
กรมประมงจึงได้เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงช่วยเหลือในการจัดการต่างๆ มากขึ้น ทั้งในด้านระบบการเลี้ยง การจัดการกลุ่ม การแปรรูป การจัดการแนวคิดทางการตลาดเพิ่มเติมและการเพิ่มมูลค่า ผ่านกระบวนการคัดสรรที่ดี ตั้งแต่กระบวนการคัดพันธุ์ลงสู่บ่อ การอนุบาล การให้อาหาร การป้องกันโรค การจับปลาอย่างมีคุณภาพ ทำให้ได้ปลาที่มีคุณภาพ แม้กระทั่งเนื้อปลาติดก้างยังมีคุณภาพ กรมประมงได้ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยการนำเนื้อปลาติดก้างไปรังสรรค์เป็นเมนู "ขลุ่ยปลานิล” โดยคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาเป็นสินค้าพรีเมียม สามารถสร้างอาชีพ และกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยได้ในอนาคต
ข้อมูลจาก
กองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กรมประมง