สาระดีดีนิวส์ไทม์

“วิธีการเพาะเลี้ยงไข่น้ำ (ผำ) สำหรับมือใหม่” (ไข่น้ำ (ผำ) ถึงจะเล็ก แต่เด็ดนะ)​



    เรียกได้ว่า ไข่น้ำ (ผำ) กำลังเป็นกระแส Hot Hit เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเร็วๆนี้ที่งานเกษตรแฟร์ 66 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัว ไอศครีมผำ ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮือฮาจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่คะ ว่าที่จริงแล้ว ไข่น้ำ (ผำ) เป็นพืช ที่คนไทยนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร ให้มีความหอม มัน อร่อย มากยิ่งขึ้น เพียงแต่หลายคนยังว่าไม่รู้ว่าไข่ผำ ให้คุณค่าทางอาหารสูงมากแค่ไหน วันนี้เรามีวิธีเพาะเลี้ยงไข่น้ำ (ผำ) มาฝากกัน เผื่อใครที่กำลังมองหารายได้เสริม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะคะ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ ไข่น้ำ (ผำ) กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ



    ไข่น้ำ (ผำ) เป็นพืชน้ำ ลักษณะเป็นสีเขียวขนาดเล็กคล้ายไข่ปลา กระจายคลุมเหนือผิวน้ำเป็นแพ มีขึ้นอยู่ตามแหล่งน้ำที่เป็นน้ำนิ่ง เช่น บึง และหนองน้ำธรรมชาติทั่วไป ลักษณะรูปร่างเป็น เม็ดสีเขียวกลม  หรือเกือบกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 - 1.5 มิลลิเมตร ไม่มีราก เป็นพืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำอาจลอยอยู่เป็นกลุ่มก้อน หรือลอยปนกับพืชชนิดอื่น เช่น แหน แหนแดง ไข่น้ำ (ผำ) เป็นพืชดอกที่มีขนาดเล็กที่สุด พบในแหล่งน้ำเขตร้อน (Tropical zone) และกึ่งเขตร้อน (Subtroplcal zone) มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่แหล่งน้ำ มีปริมาณไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูง องค์ประกอบทางโภชนาการของไข่น้ำพบว่ามีโปรตีน เบต้า - แคโรทีน และมีปริมาณโปรตีนในระดับเดียวกับเมล็ดถั่วชนิดต่าง ๆ

ประโยชน์ของไข่น้ำ (ผำ)



     นอกจากใช้เป็นส่วนผสมหลักในอาหาร โดยให้กินสดเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง เช่น หมู เป็ด ยังสามารถใช้เลี้ยง ปลากินพืช เช่น ปลานิล ปลาตะเพียน เนื่องจากไข่น้ำ (ผำ) มีโปรตีนสูงประมาณร้อยละ 40 ของน้ำหนักแห้ง จึงจัดเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หากสามารถเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ไว้สำหรับเป็นอาหารของสัตว์น้ำ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารสำเร็จรูปลงได้เป็นอย่างมาก



ประเภทการเลี้ยง

    1. การเลี้ยงไข่น้ำ (ผำ) ในระยะยาวแบบต่อเนื่อง สามารถเลี้ยงในถังซีเมนต์กลม กะละมัง บ่อพลาสติก อ่างบัว ยางรถยนต์หรือบ่อเลี้ยงปลาขนาดเล็ก และตั้งในที่ร่มใต้ต้นไม้หรือที่มีแสงรำไร หรือพรางแสงแดดด้วยสแลน 50% ควรมีการควบคุมปริมาณธาตุอาหารให้เพียงพอด้วยการใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16​ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในน้ำ ไข่น้ำ (ผำ) จะมีการแตกหน่อขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเก็บผลผลิตต่อเนื่องได้ตลอดปี ผลผลิตไข่น้ำไม่แน่นอน

    2. การเลี้ยงไข่น้ำ (ผำ) ในบ่อดิน เตรียมบ่อเหมือนกับการเลี้ยงปลา โดยใส่ปูนขาวปรับสภาพดินตากบ่อให้แห้ง 7 วัน หว่านปุ๋ยมูลสัตว์แห้ง หรือใส่กระสอบมัดตามมุมบ่อ กรองน้ำเข้าบ่อ ปล่อยพันธุ์ไข่น้ำ  (ผำ) 10 กิโลกรัมต่อไร่ ไข่น้ำ (ผำ) จะแตกหน่อเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ สามารถเก็บผลผลิตครั้งแรกในวันที่ 12-15 หลังปล่อยเลี้ยงและเก็บผลผลิต 50% ทุกๆ 6 วัน ได้ตลอดทั้งปี โดยผลผลิตไข่น้ำ (ผำ) ไม่แน่นอน

ขั้นตอนการเพาะเลี้ยงไข่น้ำ(ผำ)

    1. กรองน้ำสะอาดใส่ถังไฟเบอร์เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 เมตร ระดับน้ำสูง 20-30 เชนติเมตร ให้อากาศเล็กน้อย เพื่อให้ปุ๋ยและไข่น้ำ (ผำ) กระจายตัวดี

    2. ชั่งปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 จำนวน 100 กรัม และละลายปุ๋ยใส่ลงในถังไฟเบอร์นำพันธุ์ไข่น้ำ (ผำ) 100 กรัม ใส่ลงในถังไฟเบอร์

    3. ไข่น้ำ (ผำ) จะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนขึ้นจนเต็มปอสามารถนำไปผสมกับชำละเอียด หรือปลาป่น นำไปให้ลูกปลาขนาดเล็กกินเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต

การเก็บเกี่ยว



    สามารถเก็บเกี่ยวไข่น้ำ (ผำ) บางส่วนหลังจากขยายพันได้ 6-10 วัน ให้ไข่น้ำ (ผำ) ส่วนที่เหลือเจริญเติบโตต่อไป วิธีนี้สามารถเก็บผลผลิต ต่อเนื่องได้ แต่อาจต้องมีการใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่มเดิมระหว่างการเลี้ยงหรือเก็บเกี่ยวครั้งเดียว ในระยะเวลา 1 เดือน ได้ผลผลิตไข่น้ำ (ผำ)  สด 4 กิโลกรัม​ การนำไข่น้ำ (ผำ) เป็นอาหารเสริมลดต้นทุนสำหรับปลาน้ำจืด โดยใส่เป็นอาหารเสริมสำหรับลูกปลาขนาดเล็ก หรือนำผสมกับรำละเอียด ในอัตรา 2 : 1 ให้เข้ากัน และปั้นเป็นก้อน นำไปหว่านให้ลูกปลากิน

    ทั้งนี้ การนำไข่น้ำ (ผำ) มาประกอบอาหารควรหลีกเลี่ยงการกินแบบสด ควรปรุงสุกผ่านความร้อนก่อนทาน เพราะอาจมีการปนเปื้อนของตัวอ่อนพยาธิได้

 

ขอบพระคุณข้อมูลดีดีจาก

- คุณสุวรรณดี ขวัญเมือง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตรัง

- คุณชไมพร แก้วศรีทอง (พี่อ้อ)  นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตรัง กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด กรมประมง

เรียบเรียงโดย​ ฝ้าย​ ผส.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม​ ได้ที่

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตรัง กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด กรมประมง​ โทร. 0-7527-0640 ศพจ.ตรัง www4.fisheries.go.th/rfa-trang

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า
สาระดีดีนิวส์ไทม์
สาระดีดีนิวส์ไทม์
สาระดีดีนิวส์ไทม์