“สยามคูโบต้า” และ “กรมการข้าว”
ส่งเสริมการทำเกษตรในรูปแบบ Smart Farming จัดโครงการประกวด
“แปลงนวัตกรรมสู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ฤดูฝน/ 2565” เฟ้นหากลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจากทั่วประเทศที่นำเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมเกษตรมาใช้บริหารจัดการการเพาะปลูกข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุดมอบรางวัลแก่ผู้ชนะ เดินหน้าขยายผลองค์ความรู้
สร้างความเข้มแข็งและเชื่อมโยงเครือข่ายสู่เกษตรกรทั่วประเทศ
พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภาคการเกษตรไทย
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์
กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด
เปิดเผยถึงการจัดโครงการในครั้งนี้ว่า สยามคูโบต้ามุ่งหวังให้เกษตรกรมีการทำเกษตรที่แม่นยำ
ผ่านการใช้องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร และนวัตกรรมการเกษตร
รวมถึงโซลูชันต่างๆ
เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และเห็นถึงศักยภาพที่สามารถช่วยลดต้นทุน เพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิต รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผันแปรของภัยธรรมชาติ
สร้างรายได้ที่มากขึ้น และนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ทั้งนี้ สยามคูโบต้า
จึงได้ร่วมมือกับ กองเมล็ดพันธุ์ข้าว โดย กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จัดโครงการประกวด “แปลงนวัตกรรมสู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ฤดูฝน/ 2565” เพื่อเฟ้นหากลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีความเข้มแข็ง
เนื่องจากเกษตรกรกลุ่มนี้สามารถเป็นต้นแบบ Smart Farmer ให้แก่เกษตรกรทั่วไปได้เล็งเห็นถึงประสิทธิภาพของการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรมาใช้ในการเพาะปลูกข้าวและขยายเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้
สยามคูโบต้าและร้านค้าผู้แทนจำหน่ายฯ
จะเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้ในการเพาะปลูกในพื้นที่ของกลุ่ม
อาทิ แทรกเตอร์ รถดำนา โดรนการเกษตร รถเกี่ยวนวดข้าว และเครื่องอัดฟาง
ตลอดจนจัดอบรมระบบบริหารจัดการฟาร์ม หรือ K-iField
Application ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบ Farm & Machinery
Management Platform ที่ช่วยเกษตรกรบันทึกข้อมูลสำคัญของแปลงนา
มีปฏิทินการเพาะปลูกรายแปลง การจัดการรายได้ในฟาร์ม กลุ่มชุมชนชาวเกษตร และการประเมินสุขภาพพืชเบื้องต้น
ทำให้เกิดความแม่นยำ สามารถวางแผนการทำงานได้ครอบคลุมตลอดทั้งฤดูกาล
อีกทั้งยังบริหารต้นทุนการเพาะปลูกเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด
และนำข้อมูลสถิติมาใช้ในการปรับปรุงสำหรับฤดูกาลถัดไปได้ด้วย
ซึ่งเกษตรกรจะได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่บริสุทธิ์ สามารถกระจายเมล็ดพันธุ์ดี
มีมาตรฐานไปสู่เกษตรกรอื่นๆ ได้
อันจะนำไปสู่องค์ความรู้ที่ช่วยสร้างรายได้อย่างมั่นคงเชื่อมโยงเกษตรกรทั่วประเทศให้เกิดความเข้มแข็ง
และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภาคการเกษตรไทย
ด้าน นายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว
กล่าวว่า
โครงการนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตร
ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สะดวก แม่นยำ
และทันต่อเหตุการณ์สำหรับการบริหารจัดการแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ เนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบัน
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ส่งผลให้ประชากรวัยแรงงานในภาคการเกษตรลดลง
การนำนวัตกรรมมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
อีกทั้งแนวโน้มการทำการเกษตรรูปแบบใหม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการลดต้นทุน
รักษาสิ่งแวดล้อม สร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศ และปลอดภัยทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค
และเชื่อมั่นได้ว่าการผนวกเรื่องดังกล่าวเข้าด้วยกันจะทำให้เกษตรกรมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ขณะที่ นายกฤษฎิน คำตัน
รักษาการผู้อำนวยการกองเมล็ดพันธุ์ข้าว กล่าวถึงการคัดเลือกว่า หลังจากได้กลุ่มเป้าหมาย
คือ
กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวซึ่งเป็นเกษตรกรที่ผลิตเมล็ดพันธุ์ให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว
ทั้ง 29 ศูนย์เรียบร้อยแล้ว
ทางคณะกรรมการได้จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เรื่องนวัตกรรมการเกษตรตลอดฤดูกาลเพาะปลูก
และกิจกรรมการประกวดแปลงนวัตกรรมสู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี
ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง-ใต้ โดยมีเกณฑ์การประกวด 3
ด้าน ได้แก่ ด้านการดำเนินงานสู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี
ด้านความคิดริเริ่ม ความสามารถในการบริหารและจัดการ
และด้านความมั่นคงและเข็มแข็งของกลุ่ม โดยคณะกรรมการของแต่ละภาคได้คัดเลือก
และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะในโครงการประกวดแปลงนวัตกรรมสู่การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี
ฤดูฝน/ 2565 ดังนี้
รางวัลชนะเลิศ ได้รับ
โดรนการเกษตรรุ่น T20P 1 ลำ มูลค่า 395,000 บาท จำนวน 3 รางวัล ภาคเหนือ ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวศรีนคร
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่
กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านแฝก-โนนสำราญ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ภาคกลางและใต้
ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวนางแก้ว ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวราชบุรี รางวัลรองชนะเลิศ
อันดับ 1 ได้รับเงินสำหรับสนับสนุนกลุ่ม มูลค่า 50,000 บาท จำนวน 3 รางวัล ภาคเหนือ ได้แก่
กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าววังโมกข์ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านดงน้อย ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอุดรธานี ภาคกลางและใต้
ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ต.สนามแจง ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวลพบุรี รางวัลรองชนะเลิศ
อันดับ 2 ได้รับเงินสำหรับสนับสนุนกลุ่ม มูลค่า 30,000 บาท จำนวน 3 รางวัล ภาคเหนือ ได้แก่
กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านหม้อ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านสงเปลือย ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวร้อยเอ็ด ภาคกลางและใต้
ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านแหลม ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังมีรางวัลชมเชย
ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลสำหรับสนับสนุนกลุ่ม มูลค่า 10,000 บาท