เมื่อช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนมีฝนตกลมกรรโชกแรงในพื้นที่หลายจังหวัด ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ทำให้ต้นไม้โค่นล้ม ผลผลิตร่วงหล่น ซึ่งขณะนี้ผลไม้ภาคตะวันออกหลายชนิดใกล้จะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ส่วนภาคเหนือมีทั้งลำไยและลิ้นจี่ ความเสียหายที่เกิดขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เร่งสำรวจความเสียหาย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้นทันที
กรณีผลผลิต “ทุเรียนที่ร่วงหล่น” ในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนนั้น สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ว่า ในหลายพื้นที่มีผู้ประกอบการ เช่น โรงงานแปรรูป โรงงานไอศกรีม และห้องเย็น มีความประสงค์จะ “รับซื้อผลผลิตร่วงหล่น”ดังกล่าว แต่ขอให้เกษตรกรดำเนินการ “ทำตำหนิโดยการพ่นสีน้ำเงินที่ผลทุเรียน” ที่โดนลมพายุร่วงหล่น หรือ “ห้ามตัดขั้วก่อนนำส่งโรงงาน” นอกจากนี้ส่วนที่เหลือเกษตรกรสามารถนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ต่อได้
ทั้งนี้ กรณีพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายสิ้นเชิง และเป็นเกษตรกรที่ “ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย” จะได้รับความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 โดยจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน
ที่มา เพจไทยคู่ฟ้า