วันนี้ (29 พ.ค.66) ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ
(SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล
รองอธิบดีกรมชลประทาน
เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video
Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ
กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง
ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล
รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (29 พ.ค.66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ
มีปริมาณน้ำรวมกัน 41,016 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯ รวมกัน สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 35,321 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา
(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์)
มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,995 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯรวมกัน สามารถรองรับน้ำรวมกันได้อีกประมาณ 12,876 ล้าน ลบ.ม.
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา
วันที่ 29 พ.ค. - 4 มิ.ย. 66 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น
ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ กรมชลประทาน
ได้กำชับให้โครงการชลประทานทั่วประเทศทำการติดป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน
เฝ้าระวังอันตรายแก่ประชาชนที่เล่นน้ำบริเวณคลองชลประทาน
พร้อมติดตามสภาพอากาศและสภาพฝนอย่างใกล้ชิด
และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนอย่างประณีตและเกิดประโยชน์สูงสุด
รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมอ่างเก็บน้ำ อาคารชลประทาน
พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมอุปกรณ์หรือสถานที่เพื่อใช้ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วงให้ได้มากที่สุด
เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2566 ที่กรมชลประทานกำหนดไว้ ได้แก่ 1.จัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
และรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอตลอดทั้งปี 2.บริหารจัดการน้ำท่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3. ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้น้ำฝนเป็นหลักในการเพาะปลูก 4.กักเก็บน้ำในเขื่อน รวมไปถึงแหล่งน้ำต่างๆ ให้มากที่สุด 5.วางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2566 ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ
(กอนช.) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่เพียงพอสำหรับทุกกิจกรรม
และลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด