สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) – ARDA เล็งหนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาการพี่ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย
เผยต้องเร่งใช้หลักวิทยศาสตร์และฟิสิกส์เข้าช่วยทั้งในระยะสั้น – ระยะยาว
หลังประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดอย่างหนักของ “ปลาหมอคางดำ”
ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย จนเกิดการสั่งไล่ล่าแบบจับตายเพื่อป้องกันการรุกรานสัตว์น้ำท้องถิ่นจนสูญพันธุ์
และป้องกันระบบนิเวศทางน้ำจะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง
ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า
ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ
เชื่อมั่นว่าเป็นปัญหาที่ตอนนี้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนทั้งระยะเร่งด่วน
- ระยะยาว แต่ในส่วนของการพัฒนางานวิจัยคุณภาพเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหา ARDA ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัยด้านการเกษตร
เห็นว่า งานวิจัยที่ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ
การศึกษาชีววิทยาปลาหมอคางดำให้ได้ความชัดเจน
อาทิ วงจรชีวิตการสืบพันธุ์ อาหาร ผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารในธรรมชาติ
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญต้องศึกษาปลาเอเลี่ยนไปผสมกับปลาท้องถิ่นหรือไม่
และการศึกษาพันธุ์ปลาท้องถิ่นที่ถูกรุกรานและดำเนินการเร่งรวบรวมและเพาะขยายพันธุ์ปลาท้องถิ่นที่ถูกรุกรานเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
เรื่องเหล่านี้เป็นงานวิจัยต้องทำในระยะเร่งด่วน
ในส่วนของงานวิจัยที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในระยะยาว
จะต้องศึกษาวิธีการการตัดวงจรชีวิตปลาคางดำ
โดยด้านวิทยาศาสตร์ปัจจุบันถูกพูดถึงกันหลายวิธีทั้งการทำให้เป็นหมันในธรรมชาติซึ่งเป็นกลไกนึง
รวมถึงการใช้สารเคมี นอกจากวิธีดังกล่าวทาง ARDA แนะนำว่าควรมีการศึกษาฟีโรโมนของปลาหมอคางดำ
เนื่องจากการสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำก็เหมือนกับแมลงกับสัตว์อื่น ซึ่งจะมี
“ฟีโรโมน”สารคัดหลั่งในการดึงดูดเพศซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการ “รวมฝูง”
เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาฟีโรโมนของปลาหมอคางดำ เพื่อบริหารจัดการที่เหมาะสม
นอกจากนี้ควรใช้หลักการใช้ฟิสิกส์เข้าไปช่วย เรื่องของแสง เสียง
เนื่องจากสัตว์น้ำมีความไวต่อแสงพอสมควร ยกตัวอย่างที่เห็นภาพง่ายๆ
การรวบรวมฝูงหมึกด้วยแสงไฟล่อสีเขียว สัตว์น้ำชนิดอื่นๆ เช่นเดียวกัน
ต้องมีการศึกษาวิจัยแสง เสียงที่เหมาะสม ว่าสามารถเป็นไปได้ไหมที่จะล่อให้ปลามาอยู่รวมฝูงกันเพื่อให้ง่ายและรวดเร็วต่อการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ตาม
ถึงแม้ทุกหน่วยงานจะเร่งดำเนินการอย่างเข้มงวด
แต่ปลาชนิดนี้อาศัยได้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม
ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าพบว่ามีการผ่าท้องและพบ “เคย” ซึ่งถือเป็นอาหารอันดับต้นๆ
ของสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะปลากะตัก ปลาหลังเขียว
ซึ่งเป็นอาหารสำคัญของสัตว์น้ำในห่วงโซ่ผลิต
ซึ่งหากปลาหมอคางดำกินเยอะจนสามารถตัดวงจรของของเคย
ความเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสัตว์น้ำและความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติจะลดลงไปอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในส่วนของมาตรการการติดตามการเฝ้าระวังต้องมีพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่กันไปด้วย
อาทิ ระบบ GIS ระบบดาวเทียม แอปพลิเคชัน
สำหรับให้เกษตรกร ชาวประมง
หรือผู้ติดตามเฝ้าระวังรายงานเข้ามากับหน่วยงานที่กี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบายอย่างเร่งด่วน
กรมประมงกรมเดียวคงไม่อาจสามารถแก้ไขปัญหาได้ จำเป็นต้องมีการแสวงหาความรู้
สถาบันการศึกษาหลายๆ แห่ง นักวิจัย รวมถึงประชาชน เข้ามาบูรณาการร่วมกัน
เนื่องจากการศึกษาเรื่องเหล่านี้ต้องใช้องค์ความรู้เฉพาะด้านที่กว้างขวางพอสมควร
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผอ. สำนักงานฯ
กล่าวในตอนท้ายว่า การใช้ข้อมูลทางวิทยาศาตร์ถึงแม้บางผลงานอาจใช้เวลานาน
แต่ข้อมูลที่ได้มานั้นไม่สามารถบิดเบือนได้
ซึ่งฐานข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐในการสนับสนุนการตัดสินใจการแก้ไขปํญหาในระยะยาวอย่างตกผลึกและตรงประเด็น
ตลอดจนเป็นการช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นซ้ำในอนาคตได้ นอกจากนี้
ข้อมูลวิทยาศาสตร์การเยียวยาผลกระทบทั้งเชิงสังคมและเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่ ARDA มีนโยบายให้การสนับสนุนงานวิจัย
ซึ่งต้องร่วมมือกับอว. ดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อไป