ใครจะไปคิดว่า”มะขามเทศ” พืชเศรษฐกิจท้องถิ่น
ที่ชาวบ้านปลูกเป็นอาชีพเสริมรายได้
ปัจจุบันจะกลายเป็นพืชหลักทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่นิคมสหกรณ์ห้วยขมิ้น
จังหวัดสุพรรณบุรี โดยการสนับสนุนของสหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัด ภายใต้โครงการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรสมาชิก
ส่งผลทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกสหกรณ์ฯที่มีอยู่กว่า 2,000
รายดีขึ้นตามลำดับ
ปัจจุบันสหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัด
ตั้งอยู่เลขที่2/1 ม.3 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
ภายในนิคมสหกรณ์ห้วยขมิ้น ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 อำเภอของจังหวัดสุพรรณบุรี
ประกอบด้วย ด่านช้าง หนองหญ้าไซและเดิมบางนางบวช
ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเดิมอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้
ต่อมาพื้นที่บางส่วนถูกบุกรุกจนกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ต่อมาได้มีการจัดตั้งนิคมสหกรณ์ห้วยขมิ้นขึ้น
โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และจัดสรรที่ดินทำกินแก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ในนิคมฯ รายละไม่เกิน 50 ไร่
พร้อมรวมกลุ่มจัดตั้งสหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัด
เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมด้านอาชีพและสวัสดิการต่าง ๆ
แก่ผู้ที่อาศัยอยู่ในนิคมฯให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“สหกรณ์ฯมีสมาชิกสามัญอยู่พันกว่าราย
สมาชิกสมทบส่วนหนึ่ง รวม 2 พันราย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ปลูกอ้อยข้าวโพด
มันสำปะหลัง และทำสวนมะขามเทศ เมื่อก่อนปลูกมะขามเทศเป็นอาชีพเสริม
เดี่ยวนี้เป็นอาชีพหลักแล้ว เพราะมีรายได้ดีกว่าปลูกข้าวโพดทำไร่มัน
ผลผลิตเกือบทั้งหมดจะส่งพ่อค้าที่ตลาดไทและสี่มุมเมือง”นางสาวบุษยพรรณ
อินยา ผู้จัดการสหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัดเผย
ถึงแม้พืชเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมะขามเทศจะสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้แก่เกษตรกรสมาชิก
แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งกันดาร ต้องเจอปัญหาการขาดแคลนน้ำเข้าถึงแปลงปลูก
โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ส่งผลทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
แต่หลังจากกรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโยบายสนับสนุนระบบน้ำในไร่นาแก่สมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศเมื่อปี
2563-64 โดยปล่อยสินเชื่อเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ
1 แก่สถาบันเกษตรกรผ่านกองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.) เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้แก่สมาชิก
ซึ่งปี 2563 สหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัด ได้ขอกู้มาเป็นจำนวนเงิน 1.5
ล้านบาท เพื่อมาปล่อยกู้กับเกษตรกรสมาชิก นำไปใช้เจาะบ่อน้ำ
ขุดสระและพัฒนาระบบน้ำในแปลงเกษตรกรรม
จากนั้นก็กู้ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยปีละ 1.5-2 ล้านบาท
โดยมีระยะเวลาส่งคืน 4 ปี
“ในส่วนของเงินกู้เพื่อสร้างแหล่งน้ำตอนนั้นกู้ของกรมมาล้านห้า
ปีนี้(2567)ให้มาล้านเดียว อัตราดอกเบี้ยร้อยละ1 สหกรณ์ฯปล่อยกู้สมาชิกร้อยละ 3
แต่เงินที่กู้จากกรมมาไม่พอ บางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ คือได้ไม่ทั่วถึง
ก็เลยเอาเงินของสหกรณ์เองปล่อยกู้ไปดอกเบี้ยร้อยละ4 ซึ่งสมาชิกเขารับได้
สมาชิกแต่ละรายกู้เฉลี่ย 50,000 – 100,000 บาท กำหนดส่งภายใน 4
ปีส่วนการกู้เพื่อลงทุนทำมันสำปะหลัง ให้กู้ตามจำนวนไร่ที่เขาทำ ไร่ละ
3,000 บาท แต่ไม่เกิน 30 ไร่หรือ 90,000 บาท/ราย
ถึงตอนนี้สหกรณ์ได้ปล่อยกู้ไปทั้งหมดรวมทุกโครงการ รวมเป็นเงิน 37.7
ล้านบาท”ผู้จัดการสหกรณ์นิคมด่านช้าง
จำกัดเผยตัวเลขการปล่อยสินเชื่อแก่สมาชิกในโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสมาชิกสหกรณ์
เธอยอมรับว่าเงินที่สมาชิกกู้ไปนั้นส่วนใหญ่นำไปพัฒนาแหล่งน้ำ
เนื่องจากสภาพพื้นที่แห้งแล้งกันดาร ขาดน้ำในฤดูแล้ง
ต้องพึ่งพาน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ถ้าไม่มีแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้
โดยเฉพาะในฤดูแล้งพืชผลจะได้รับความเสียหายจากการขาดน้ำ
ทางคณะกรรมการฯสหกรณ์ได้เห็นความสำคัญตรงจุดนี้
ทำให้การขับเคลื่อนการส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิกนั้นจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแหล่งน้ำเป็นหลัก
“หากฝนไม่ตกจะทำให้พืชผลเสียหาย
พื้นที่แถบนี้จะขาดแคลนแหล่งน้ำ ปีไหนฝนไม่ตกพืชผลจะเสียหายเยอะมาก
บางคนถ้าไม่มีแหล่งน้ำพืชผลจะเสียหายไปหมดเลย มะขามเทศเมื่อก่อนเป็นแค่อาชีพเสริม
บางรายปลูกกันเยอะมากเฉลี่ย 30-100 ต้น บางรายเลิกปลูกมัน ปลูกข้าวโพด หันมาปลูกมะขามเทศอย่างเดียว
ทางสหกรณ์ฯก็ได้เข้าไปส่งเสริม โดยสนับสนุนเงินกู้ปีต่อปี
ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดสุพรรณบุรีก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำ
ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การปลูก ดูแลรักษาไปจนถึการเก็บเกี่ยวผลผลิต
มะขามเทศที่นี่จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่พฤศจิกายนถึงมีนาคม
โดยจะมีพ่อค้าจากตลาดไทและตลาดสี่มุมเมืองเข้ามารับซื้อผลผลิตถึงที่ในราคากิโลกรัมละ
50-60 บาท ส่วนอาชีพเสริมอื่นที่เราเข้าไปส่งเสริมก็มีการเลี้ยงวัว เลี้ยงไก่ไข่
ปลูกพืชผักสมุนไพร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสมาชิกแต่ละราย
ส่วนการชำระหนี้ของสมาชิกไม่มีปัญหาตอนนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ส่งเงินคืนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด”นางสาวบุษยพรรณ
กล่าว
อย่างไรก็ตาม
นอกจากโครงการส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกรสมาชิกแล้ว สหกรณ์ฯยังให้บริการลานมัน
โดยประสานกับลานตากเอกชนเพื่อรองรับผลผลิตของสมาชิก ก่อนส่งโรงงานแปรรูป
อีกทั้งยังได้ประสานกับโรงงานในการอำนวยความสะดวกแก่สมาชิก
โดยเมื่อสมาชิกนำผลผลิตไปส่งโรงงานแล้วทางโรงงานจะออกใบรับซื้อวัตถุดิบให้
จากนั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
สมาชิกสามารถนำใบรับซื้อวัตถุดิบนั้นมาเบิกเงินที่สหกรณ์ได้ในทันที
โดยไม่ต้องรอเงินจากโรงงาน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน ปัจจุบันสหกรณ์นิคมด่านช้าง
จำกัด มีการดำเนินธุรกิจด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ธุรกิจสินเชื่อปล่อยกู้
ซึ่งทำรายได้หลักแก่สหกรณ์ ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย
ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ปุ๋ยยาและของใช้ทั่วไป
ธุรกิจรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนธุรกิจปั้มน้ำมัน(ดีเซล)
“ตอนนี้มีธุรกิจสินเชื่อปล่อยกู้ทำรายได้มากที่สุด
สมาชิกที่กู้ส่วนใหญ่ใช้คนค้ำกันเอง ปีนี้ปล่อยไปแล้ว 37.7 ล้านบาท
อายุการชำระหนึ้ขึ้นอยู่กับประเภทเงินกู้ มีทั้งระยะสั้นปีต่อปี หรือระยะกลาง 3-4
ปี
เรามีธุรกิจปั้มน้ำมัน
ขายเฉพาะดีเซลใช้กับเครื่องจักกรการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ เรามีธุรกิจรวบรวมผลผลิตคือมันสำปะหลัง
สมาชิกเอาผลผลิตไปส่งโรงงานแล้วมาขึ้นเงินที่เรา เราไม่มีลานมันเป็นของตัวเอง
แต่รอบ ๆ สหกรณ์มีลานมันเอกชนเยอะ
เราก็ประสานไปยังเจ้าของลานมันให้เปิดโควต้าไว้บริการสมาชิกใกล้ที่ไหนไปส่งลานมันที่นั่น
เราเป็นสหกรณ์เล็ก ๆ ปีนี้(2567)สหกรณ์เพิ่งปิดงบไปเมื่อเดือนที่แล้ว(มิถุนายน)
มีกำไรแค่หลักแสน แต่กำไรไม่ใช่เป้าหมายหลัก
สิ่งสำคัญคือการดูแลสมาชิก” ผู้จัดการสหกรณ์นิคมด่านช้าง จำกัด ย้ำทิ้งท้าย