สยามคูโบต้า และ กรมส่งเสริมการเกษตร ประกาศผู้เข้ารอบ 20
ทีมสุดท้ายเข้าสู่เวทีการแข่งขันชิงสุดยอดเกษตรกรนักปลูกข้าวโครงการ “คูโบต้า กล้า
ท้า ปลูก ปี 2” ส่งเสริมการทำเกษตรแม่นยำด้วยนวัตกรรมปฏิทินเพาะปลูก “KAS
Crop Calendar On LINE” ต่อยอดความสำเร็จจากปีแรก
สู่การขยายผลในรูปแบบทีมพร้อมสร้างเครือข่าย Smart Farmer ทั่วประเทศ
เตรียมลุ้นไปกับการขับเคี่ยวของทีมเกษตรกรผู้เข้ารอบทั้ง 4 ภาค
ที่จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพาะปลูกข้าวเชื่อมโยงกับพื้นที่แปลงนาของตัวเอง
ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแปลงจนถึงเก็บเกี่ยวตลอดฤดูกาลทำนา
พร้อมกับวิธีการทำนาแบบรักษ์โลกและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรไทย
มาร่วมเฟ้นหาทีมผู้ชนะที่จะมาคว้าชัยในศึกแห่งผืนนา
ที่สามารถใช้เทคนิคการปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ
ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 1,000,000 บาท พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลายปีนี้
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวถึงบทวิเคราะห์ กับดักระบบเกษตรไทยและคนรุ่นใหม่ว่า “Young Farmer
:New Engine to More Power คนรุ่นใหม่จำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่อาชีพเกษตรได้
ขณะที่เกษตรกรเดิมยังอยู่ในระบบเดิม สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น
การไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สินเชื่อที่เข้าถึงยาก สิทธิที่ผูกขาด
ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เช่น มีทักษะดิจิทัล แต่ระบบไม่เปิดโอกาส และระบบแรงจูงใจที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา
ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรจะใช้พลังและการขับเคลื่อนของเกษตรกรรุ่นใหม่
มุ่งให้เกษตรกรเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
โดยเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรจะเป็นผู้จัดการเรียนรู้
มีเกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการยกระดับคุณค่าสินค้าเกษตร เพื่อสร้างโอกาสภาคการเกษตรของไทยในการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานสินค้า
ด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อลดการสูญเปล่า สูญเสียในกระบวนการผลิต
พัฒนายกระดับศักยภาพการผลิต รวมถึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือคุณค่าใหม่
ผ่านแนวทางการขับเคลื่อน ได้แก่
1.
การพัฒนาทักษะให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรมืออาชีพ อาทิ การพัฒนาทักษะใหม่ 5 ด้าน
ได้แก่ ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล ประเมินสถานการณ์
และคิดอย่างสร้างสรรค์เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เป็นต้น
การจัดเวทีเรียนรู้โดยวิเคราะห์ปัญหาร่วมกัน โดยความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย
เพื่อบรรเทาผลกระทบและสามารถปรับตัวจากสภาพแวดล้อมของสังคมได้
รวมถึงสนับสนุนการศึกษาดูงานต่างประเทศ เป็นต้น 2.
ส่งเสริมการเข้าถึงภาคีความร่วมมือ
เพื่อสร้างแนวคิดและขับเคลื่อนขับเคลื่อนภาคเกษตรสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
โดยใช้หลักการ 4C ทำงานร่วม เชื่อมโยงงาน สร้างสรรค์
แบ่งปันข้อมูลและเติบโตไปพร้อมกัน(Collaboration >Connect >Create
>Consolidate) 3. ส่งเสริมให้เกิดการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อเป้าหมายทางธุรกิจ
โดยมีผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และผู้ประกอบการที่ควบคู่ไปกับผู้บริโภค และ 4.
การสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย Young Smart Farmer Clusters”
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า
“การทำเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต่างร่วมมือกัน
สยามคูโบต้ามุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโลกการเกษตรที่ยั่งยืน สอดรับการก้าวสู่
Smart Farming อย่างเต็มรูปแบบ หนึ่งในโครงการสำคัญของเราคือ "คูโบต้า กล้า
ท้า ปลูก” ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากปีที่ผ่านมา
เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้เรียนรู้และใช้ KAS Crop Calendar On LINE หรือบันทึกปฏิทินการเพาะปลูก
ภายใต้โซลูชันที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย KUBOTA Agri Solutions (KAS) หรือเกษตรครบวงจร
หลังจากที่มีการเปิดรับสมัครกว่า 2 เดือน วันนี้เราได้ผู้ผ่านเข้ารอบ 20
สุดท้ายจากตัวแทนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
ที่จะมาเปิดประสบการณ์สุดท้าทายอีกขั้นของเกษตรกรยุคใหม่โครงการของเราไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน
แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและเปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยได้พัฒนาตัวเอง
เราภูมิใจที่ได้เห็นผู้เข้าร่วมจากปีที่ผ่านมา
ประสบความสำเร็จและเป็นต้นแบบเกษตรกรรุ่นใหม่
และขยายองค์ความรู้ไปสู่เกษตรกรรายอื่น ซึ่งพิสูจน์ได้จริงว่า
เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นการทำนาดำที่ช่วยลดต้นทุนเมล็ดพันธุ์ได้ถึง
70% การเพิ่มผลผลิตได้มากถึง 30%
ในปีนี้นอกจากเกษตรกรจะได้รับความรู้เกี่ยวกับบันทึกปฏิทินการเพาะปลูกที่ช่วยให้สามารถบริหารจัดการแปลงเกษตรได้แบบเรียลไทม์
มีแบบแผนและแม่นยำมากขึ้น ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตการทำแผนธุรกิจ
รวมไปถึงการเรียนทำคอนเท้นท์ TikTok เพื่อต่อยอดการสร้างรายได้แล้ว
เรายังได้ปลูกฝังการทำนารักษ์โลกด้วยวิธี "เปียกสลับแห้ง"
ที่ช่วยลดปริมาณก๊าซมีเทนจากแปลงนาได้ถึง 30% และลดการใช้น้ำในการเพาะปลูก
ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการทำเกษตรคาร์บอนต่ำมาเป็นหลักเกณฑ์สำคัญในการแข่งขันด้วย
เพื่อทำให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจการเกษตรได้เห็นว่า เกษตรกรรมไม่ใช่เรื่องล้าสมัย
แต่สามารถเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรและมั่นคงได้ ช่วยผลักดัน Smart Farmer ให้เติบโตขึ้น
และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในกลุ่มเกษตรกร
และสร้างการเติบโตในภาคการเกษตรไทยที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน”
สำหรับระยะเวลาการแข่งขัน
จะเริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูกาลเพาะปลูกเดือนมิถุนายน 2568 ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ภายในเดือนธันวาคม 2568 และประกาศผลตัดสินผู้ชนะในวันที่ 19 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศ (ภาคละ 1 รางวัล รวม 4 รางวัล)
จะได้รับถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัล จำนวน 150,000 บาท/ ทีม และรางวัลรองชนะเลิศ
(ภาคละ 2 รางวัล รวม 8 รางวัล) จะได้รับเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท/ ทีม
ติดตามและให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขันทั้ง 20 ทีม ได้ทาง Facebook Fanpage :
Siam Kubota และ LINE
Official Account : @kubotaklataplook หรือเรียนรู้เทคนิคการทำเกษตรด้วย บันทึกปฏิทินการเพาะปลูก หรือ KAS
Crop Calendar On LINE ผ่าน Line OA Siam Kubota โดยเข้าไปที่เมนู KAS บันทึกปฏิทินการเพาะปลูก
หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ https://kas.siamkubota.co.th/