นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์
เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาผู้บริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี นายประวัติ แดงบรรจง รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
และผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย สหกรณ์จังหวัด ข้าราชการ
พนักงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์
ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่น
เซ็นเตอร์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
โอกาสนี้ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า
โครงการสัมมนาผู้บริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
เป็นหนึ่งในกระบวนการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้บรรลุตามเป้าประสงค์ในการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เป็นการช่วยสร้างพื้นที่ให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์ทุกระดับได้แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นระหว่างกัน
ตลอดจนเป็นการติดตามและประเมินผลแผนงาน/โครงการที่สหกรณ์แต่ละแห่งได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
พร้อมกันนี้ อธิบดีฯ
ได้ชื่นชมความสำเร็จจากการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์ในช่วงที่ผ่านมา
ที่สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ทุกประเภท
ผ่านการให้สินเชื่อแก่สหกรณ์
เพื่อใช้ดำเนินธุรกิจและเป็นทุนหมุนเวียนในการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่สมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งผลลัพธ์จากการใช้เงินกู้ กพส. ส่งผลให้สหกรณ์มีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้น 24,708.78 ล้านบาท/ปี สามารถลดต้นทุนจากการกู้ยืมแหล่งเงินทุนอื่น คิดเป็นมูลค่า 229.50 ล้านบาท/ปี ช่วยลดต้นทุนจากการซื้อปัจจัยการผลิตผ่านสหกรณ์ คิดเป็นมูลค่า
212.55 ล้านบาท เพิ่มรายได้จากการขายผลผลิตผ่านสหกรณ์
คิดเป็นมูลค่า 111.89 ล้านบาท สมาชิกได้รับประโยชน์ 296,251 ราย/ปี
“สำหรับการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนพัฒนาสหกรณ์
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2569
กพส.วางแนวทางบริหารจัดการกรอบวงเงินให้สหกรณ์กู้ยืมประจำปี
โดยคำนึงจากสภาพคล่องทางการเงินและกระแสเงินสดรับจากหนี้ที่ถึงกำหนดชำระระหว่างปี
โดยมีการสำรวจความต้องการใช้เงินกู้ล่วงหน้าในแต่ละปี
ซึ่งคาดว่าจะสามารถสนับสนุนเงินกู้เพื่อช่วยเหลือสหกรณ์ ประมาณ 5,100 ล้านบาท แยกเป็น 1. โครงการปกติ
อัตราดอกเบี้ยตามชั้นลูกหนี้ กพส. เพื่อส่งเสริมให้สหกรณ์ดำเนินธุรกิจ
วัตถุประสงค์ให้สมาชิกกู้ จัดหาสินค้ามาจำหน่าย รวบรวมผลผลิต และลงทุนในทรัพย์สิน
จำนวน 3,060 ล้านบาท 2. โครงการพิเศษ
เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ
หรือเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นการเฉพาะ จำนวน 17 โครงการ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ (ร้อยละ 0 – 1) จำนวน 2,040 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทั้งสองโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณากรอบวงเงินกู้”
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
จากนั้น อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์
ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรศรีเมืองใหม่ จำกัด
อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี
ซึ่งเป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์
เพื่อนำมาใช้พัฒนาธุรกิจของสหกรณ์ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจด้านการจัดหาสินค้ามาจำหน่าย
เนื่องจากทำให้สหกรณ์สามารถจัดซื้อเครื่องผสมปุ๋ยอัตโนมัติ TP
one รุ่น BB top 3 กำลังการผลิต
ขนาดไม่น้อยกว่า 30 ตัน/วัน (600-1,200 กระสอบ)
ผ่านโครงการสนับสนุนสินเชื่อจัดหาเครื่องผสมปุ๋ยใช้เองเพื่อลดต้นทุนการผลิต
ส่งผลให้สหกรณ์สามารถผลิตปุ๋ยไว้ใช้เองเพื่อจำหน่ายแก่สมาชิกในราคาที่เป็นธรรมได้
โดยปัจจุบันสหกรณ์ขึ้นทะเบียนผสมแล้วทั้งหมด 12 สูตร ได้แก่
สำหรับนาข้าว 16-168/16-8-8/15-15-15/16-20-0 และ
สำหรับมันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์ม 15-5-20/18-4-5/13-3-27/15-7-18)/15-5-35/13-13-21
27-12-6/27-5-18) โดยสามารถลดต้นทุนต่อกระสอบได้ประมาณ 20-150 บาท
สำหรับสหกรณ์การเกษตรศรีเมืองใหม่ จำกัด
จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2520 ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน 4,601 ราย สหกรณ์ฯ
ดำเนินธุรกิจ 5 ด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจสินเชื่อ
ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจรวบรวมผลิตผล ธุรกิจแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร
ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย (น้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย เมล็ดพันธ์ข้าว อาหารสัตว์
เครื่องจักรกลการเกษตรและสินค้าทั่วไป) ทั้งนี้
สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนเงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยต่ำ ดังนี้
1) ปี 2568
สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนเงินกู้ กพส. จำนวน รวม 10 ล้านบาท
เป็นโครงการปกติ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี
แยกเป็นวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาสินค้ามาจำหน่าย จำนวน 5
ล้านบาท และเพื่อรวบรวมผลผลิต จำนวน 5 ล้านบาท
2) ปี 2567
สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนเงินกู้ กพส. จำนวน 11.160
ล้านบาท
2.1) โครงการปกติ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 ต่อปี แยกเป็นวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาสินค้ามาจำหน่าย จำนวน 5 ล้านบาท และเพื่อรวบรวมผลผลิต จำนวน 5 ล้านบาท
2.2) โครงการพิเศษ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ภายใต้โครงการสนับสนุนเงินกู้
กพส.เพื่อจัดหาและปรับปรุงแหล่งน้ำให้สมาชิก จำนวน 1.16
ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกกู้
มีเงินลงทุนในการสร้างหรือปรับปรุงระบบกักเก็บน้ำพร้อมอุปกรณ์ เช่น ขุดสระน้ำ
เจาะบ่อบาดาล แผงโซล่าเซลล์ ติดตั้งปั๊มน้ำ ระยะเวลาให้กู้ 3
ปี
3) ปี 2566
สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนเงินกู้ กพส. จำนวน 2.10 ล้านบาท
เป็นโครงการพิเศษ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1
ผ่านโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อการพัฒนาอาชีพสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 1.80 ล้านบาท
และโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อแก้ปัญหาหนี้และฟื้นฟูอาชีพสมาชิกสหกรณ์ ปี 3 จำนวน 0.30 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานในรอบปีบัญชีล่าสุด (31 มีนาคม 2568) สหกรณ์มีปริมาณธุรกิจรวมทั้งสิ้น 545,181,577.35
บาท มีกำไรสุทธิ 14,537,875.83 บาท
และมีทุนดำเนินงาน 546,536,128.25 บาท