วันที่ 16-17 สิงหาคม 2568 กรมการข้าวได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีของศูนย์ข้าวชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการดำเนินงานของกรมการข้าวภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะครบวงจร ปี 2568 ณ ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน และเกษตรกรกลุ่มนาแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านป่าเปา อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน และส่งเสริมให้เกษตรกรชาวนาได้เข้าถึงแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีเพิ่มมากขึ้น
นายธนานุวัตน์ ฟองจัน ประธานกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลศรีดอนมูลมีสมาชิกจำนวน 38 คน 45 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 1,037 ไร่ เกษตรกรดำเนินการผลิตข้าวด้วยระบบอินทรีย์ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ได้รับการสนับสนุนจากกรมการข้าว โดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย เป็นเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศและน้ำแบบ IoT ในการวิเคราะห์และให้ปุ๋ยได้อย่างแม่นยำ รวมไปถึงการใช้สารอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมี เพื่อให้หมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการด้านเครื่องมือและเครื่องจักรกล ลดต้นทุนการผลิตข้าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับแปลงนาได้มีการทำนาปีละ 2 ครั้ง ตามฤดูกาลเพาะปลูกในช่วงเดือนมิถุนายน–สิงหาคม และพฤศจิกายน–กุมภาพันธ์ และเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนเมษายนและมิถุนายน มีผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 800 กิโลกรัม ถึง 1.29 ตันต่อไร่ ซึ่งจุดเด่นของศูนย์ข้าวชุมชนศรีดอนมูล คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวให้มีความหลากหลาย เช่น ข้าวสามสี ที่ผสมระหว่างข้าวกล้องหอมมะลิ 105 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มบริโภคข้าวกล้อง เนื่องจากมีใยอาหารสูง สีสันน่ารับประทาน และอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเครื่องดื่มน้ำหมักมอลต์จากข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 โดยความร่วมมือระหว่างสมาชิกศูนย์ฯ คณาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ผ่านการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องเป็นเวลา 5 เดือน จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการต่อยอดข้าวเหนียวเขี้ยวงู (GI) เป็นเหล้าขาวและคราฟต์เบียร์ ภายใต้แบรนด์ “สุราฮิมนา” และผลิตภัณฑ์ชาใบข้าวหอมมะลิ 105 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้านกลิ่นหอม นอกจากนี้ศูนย์ข้าวชุมชนศรีดอนมูล ยังนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าวและวัสดุเหลือใช้ เช่น ข้าวสุญญากาศ ฟางข้าวอัดก้อน กระดาษสาจากฟาง ก้อนเพาะเห็ด และอิฐฟาง ภายใต้แนวคิด “Zero Waste” ใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนโดยไม่เหลือทิ้ง อีกทั้งยังเคยได้รับรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิระดับประเทศในปี 2565 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและความสำเร็จของการดำเนินงาน
ด้านนางจันทร์จิรา เชื้อเมืองพาน เกษตรกรกลุ่มนาแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านป่าเปาเผยว่า เดิมกลุ่มนาแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านป่าเปาประสบปัญหาในการผลิต การตลาด และการขาดแคลนเครื่องจักรทางการเกษตร ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากกรมการข้าว ภายใต้โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ตั้งแต่ปี 2564 โดยได้รับรถเกี่ยวนวดข้าวขนาด 240 แรงม้า จำนวน 1 คัน ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้อย่างมาก พร้อมกันนี้ กลุ่มยังได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ การสนับสนุนงบประมาณ และครุภัณฑ์ที่จำเป็น ทำให้เกิดการพัฒนาในหลายด้าน ทั้งการบริหารจัดการกลุ่มการเพิ่มคุณภาพและปริมาณผลผลิต การลดต้นทุน และการบริหารจัดการตลาด โดยมีการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และเน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกเป็นสำคัญ ปัจจุบันกลุ่มนาแปลงใหญ่วิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์บ้านป่าเปาได้จัดแบ่งการทำงานออกเป็น 4 ทีม ได้แก่ ทีมบริหารจัดการ ทีมการตลาด ทีมลดต้นทุน และทีมผู้จัดการแปลง อีกทั้งยังนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการผลิตโดยทางศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย ได้เข้ามาส่งเสริม สนับสนุน นำเสนอให้ปรับเปลี่ยนแนวคิดด้านการทำนาในแนวทางการปฏิบัติเทคโนโลยี โดยนำเทคโนโลยีของเกษตรอัจฉริยะเข้ามาใช้ เช่น เครื่องจักรกลปรับระดับหน้าดินด้วยแสงเลเซอร์ รถดำนา รวมไปถึงโดรนเพื่อการเกษตรสามารถใช้ในการหว่านปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนแรงงาน เพิ่มความแม่นยำในการกระจายปุ๋ย ในการใช้ปุ๋ยแต่ละครั้ง ปกติจะใช้ปุ๋ย ประมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ ปัจจุบันลดเหลือประมาณ 10 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศและน้ำแบบ IoT แจ้งเตือนผ่าน application ช่วยรักษาระดับน้ำให้พอดี ลดต้นทุนด้านการสูบน้ำทำให้ผลผลิตมีคุณภาพและได้มาตรฐานสูงขึ้น กลุ่มมีความเข้มแข็ง และสมาชิกมีรายได้ที่มั่นคง สอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาอาชีพให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว
กิจกรรมนำคณะสื่อมวลชนสัญจรเพื่อศึกษาดูงานในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการส่งเสริมให้ศูนย์ข้าวชุมชนเป็นกลไกหลักในการพัฒนาเกษตรกรรมไทย โดยเฉพาะด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปในระบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ของศูนย์ข้าวชุมชน