สาระดีดีนิวส์ไทม์

เกษตรฯ จับมือ เป๊ปซี่–โคล่า (ไทย) ลงนาม MOU “ขับเคลื่อนมันฝรั่งสู่ความยั่งยืน”

22 กันยายน 2568 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 8 หน่วยงาน ลงนามบันทึกความเข้าใจ กับบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ โดยพร้อมเป็นเครือข่ายการส่งเสริมการผลิตมันฝรั่งให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่เกษตรกร ผู้บริโภค และภาคการเกษตรไทย  โรงแรมซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

 


นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการเป็นประธานและสักขีพยานในการลงนามยกระดับศักยภาพการผลิตมันฝรั่งไทยตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาพันธุ์การจัดการพื้นที่และน้ำ การผลิตหัวพันธุ์คุณภาพ การส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจนถึงการรับซื้อผลผลิตเข้าสู่อุตสาหกรรมแปรรูป เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร และลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ

 


นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมมันฝรั่งมีมูลค่าตลาดปลายน้ำกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปีและเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของระบบเกษตรพันธสัญญา ที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังต้องนำเข้ามันฝรั่งสดและหัวพันธุ์ตัน จึงจำเป็นต้องพัฒนาการปลูกมันฝรั่งในประเทศไทยที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมชลประทาน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชนร่วมกับ บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ



 ภายใต้ MOU นี้ ภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันดำเนินงาน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งในประเทศไทยให้ทนต่อสภาพอากาศและโรค การกระจายหัวพันธุ์คุณภาพ ลดการพึ่งพาการนำเข้า การบริหารจัดการพื้นที่และน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น ระบบน้ำหยด การถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกร ผ่านเกษตรพันธสัญญา การรับซื้อผลผลิตอย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจและรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร “ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็น จุดเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะทำให้มันฝรั่งไทยก้าวสู่ความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้ช่วยลดความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ บริหารจัดการต้นทุนการผลิต และส่งเสริมรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร





 

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวเพิ่มเติมว่า บันทึกความเข้าใจครั้งนี้จะส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งที่ทำงานร่วมกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา ให้เกษตรกรสามารถปลูกมันฝรั่งได้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ยกระดับคุณภาพการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งมีผลบังคับใช้ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 21 กันยายน 2571 เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการผลิตมันฝรั่งของเกษตรกรอย่างยั่งยืน ซึ่งทุกฝ่ายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกมันฝรั่งของเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งเน้นให้เกิดกลไกสนับสนุนทางด้านการเพาะปลูกและการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าที่โปร่งใส และเป็นธรรมต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งต่อไป


แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า
สาระดีดีนิวส์ไทม์
สาระดีดีนิวส์ไทม์
สาระดีดีนิวส์ไทม์