วันที่ 9 ต.ค.68
นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล
เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 23 ปี ในวันที่ 9 ตุลาคม 2568
ภายใต้แนวคิด "23 years ACFS : From Farm to Future : Safety /
Security / Sustainability-23 ปี มกอช. จากฟาร์มสู่อนาคต :
มุ่งมั่นความปลอดภัย สร้างความมั่นคง สู่ความยั่งยืน" โดยมี พร้อมเปิดตัว
ทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษปราบปรามสินค้าเกษตรที่ไม่ได้มาตรฐาน
เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นและปกป้องเกษตรกรและผู้บริโภค
นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล กล่าวว่า ตลอด 23
ปีที่ผ่านมา มกอช. ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาและยกระดับ
สินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน
สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ บทบาทของ มกอช. ครอบคลุมตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต
ตั้งแต่การกำหนดมาตรฐาน การส่งเสริม การตรวจสอบ การรับรอง และการกำกับดูแล
ตั้งแต่ระดับฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค
เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของสินค้า
นอกจากความปลอดภัยแล้ว มกอช.
ยังให้ความสำคัญกับการสร้าง ความมั่นคงทางอาหาร
โดยเน้นย้ำว่าการผลิตอาหารของไทยต้องมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการและประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
รวมถึงขับเคลื่อนภาคเกษตรให้มุ่งสู่ ความยั่งยืน โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล
ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ภาคเกษตรเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ความสำเร็จตลอด 23 ปี สะท้อนผ่าน
การยอมรับของต่างประเทศ ต่อสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่ผ่านระบบการตรวจสอบรับรอง
โดยมีคำกล่าวว่า "สินค้าเกษตรไทย มาตรฐานสินค้าเกษตรไทย
มาตรฐานสินค้าเกษตรโลก" ซึ่งในปี 2567
ตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมีมูลค่าสูงถึง 1.66 ล้านล้านบาท
แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในสินค้าไทย
เลขาธิการ มกอช. กล่าวถึงภารกิจสำคัญในการ
ปราบปรามสินค้าเกษตรที่ไม่ได้มาตรฐานหรือสินค้าเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าว่า เนื่องจากสินค้าเหล่านี้เข้ามาบิดเบือนกลไกตลาดและทำให้ราคาสินค้าเกษตรในประเทศตกตกต่ำ
ซึ่งเป็นการทำลายเกษตรกรโดยตรง มกอช. จึงได้จัดตั้ง “ทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษปราบปรามสินค้าเกษตรที่ไม่ได้มาตรฐาน”
ขึ้น เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับสินค้าที่ปลอดภัย โดยการดำเนินการนี้สอดคล้องกับนโยบายของ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาดังกล่าว และได้มีการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช
ตั้งแต่ปี 2566 และมีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกกระทรวงเกษตรฯ
เช่น กรมศุลกากร, ตำรวจ, ทหาร,
ฝ่ายปกครอง, ปปง. และอัยการ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามและปกป้องคุ้มครองทั้งผู้บริโภคและเกษตรกร
สำหรับเป้าหมายและภารกิจในปี 2569 มกอช.
จะมุ่งเน้นการยกระดับ มาตรฐานสินค้าเกษตร อย่างเข้มข้น โดยจะเน้นหนักในการ
สืบหาข่าว เฝ้าระวัง และเข้าตรวจค้นจับกุม
โรงงานหรือส่วนที่ผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐาน
หากสินค้าเหล่านี้หลุดรอดไปต่างประเทศจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงสินค้าไทยที่ได้รับการยอมรับ
การทำงานจะบูรณาการกับหน่วยเฉพาะกิจพญา นาคราช
เพื่อเสริมปฏิบัติการในการหาพยานหลักฐาน การจัดทำสำนวนฟ้อง
รวมถึงการขยายผลสืบสวนเส้นทางการเงิน เพื่อเอาผิดผู้กระทำผิดในทุกมิติ
ไม่จำกัดเฉพาะกฎหมายของกระทรวงเกษตรฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การปราบปรามสินค้าเกษตรลักลอบนำเข้าหรือสินค้าผิดกฎหมายลดลงเหลือน้อยที่สุด
ตามเจตนารมณ์ของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า
"ขอให้พี่น้องเกษตรกรและผู้บริโภค
มั่นใจในระบบตรวจสอบและรับรองสินค้าเกษตรของไทย มกอช.
ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งหน่วยงานราชการในและนอกกระทรวงเกษตรฯ ภาคเอกชน องค์กรเกษตรกร
รวมถึงสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาระบบการตรวจสอบรับรองอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
จึงขอให้เชื่อมั่นว่า สินค้าเกษตรที่ผลิตในประเทศไทย มีคุณภาพ ปลอดภัย
และได้มาตรฐานระดับสากล" เลขาธิการ มกอช. กล่าว