เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.)
เดินหน้าพัฒนาประกันภัยภาคเกษตร จัดกิจกรรมเสวนา
“โครงการส่งเสริมความรู้ประกันภัยภาค การเกษตร ปี 2568” ณ
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดปทุมธานี ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีสร้าง
ความมั่นใจ ประกันภัยสร้างความยั่งยืน”
เพื่อเสริมเกราะป้องกันทางการเงินให้เกษตรกรไทยรับมือความเสี่ยงรอบ
ด้านในยุคที่ความผันผวนของภูมิอากาศทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาววสุมดี วสีนนท์ รองเลขาธิการ
ด้านกำกับคนกลางและประกันภัยภูมิภาค เปิดเผยว่า ความเสี่ยงจาก ภัยธรรมชาติ
ภาวะตลาด และความไม่แน่นอนทางรายได้ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อ “ความมั่นคง”
ของภาค เกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ สำนักงาน คปภ. จึงให้ความสำคัญกับการยกระดับความรู้ด้าน
ประกันภัยให้กับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านความเข้าใจ และผลักดันให้ระบบ
ประกันภัยสามารถรองรับความเสี่ยงในทุกมิติ ทั้งด้านการผลิต รายได้ ทรัพย์สิน
สุขภาพ และชีวิต “ประกันภัยเป็น เครื่องมือสร้างความมั่นคงด้านรายได้
ลดปัญหาหนี้สินให้ครอบครัวเกษตรกรยืนหยัดได้แม้ในวันที่คาดเดาไม่ได้”
รองเลขาธิการฯ กล่าวเสริมว่า
จังหวัดปทุมธานีมีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ในฐานะ “เมืองรวงข้าว”
ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเกษตรมายาวนาน การจัดงานในวันนี้จึงเป็นการนำ
‘โครงสร้างพื้นฐานทาง ดิจิทัล’ มาผนวกกับภูมิปัญญาการเกษตร
เพื่อให้เกษตรกรยุคใหม่สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างชาญ ฉลาด
ทันต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้
ภายในงานมีการเสวนาวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญ ในหลากหลายสาขา
เพื่อให้เกษตรกรเข้าใจความเสี่ยงในมิติต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ
การผลิต การเงิน และคุณภาพชีวิต พร้อมแนวทางการใช้ประกันภัยเป็น
“เกราะป้องกันเชิงรุก” ที่สามารถช่วยฟื้นฟูความเสียหาย ลดภาระหนี้สิน
และเสริมสร้างเสถียรภาพในระยะยาว โดย
- ผู้แทนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวถึง
“ประกันภัยคือเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ช่วยให้
เกษตรกรเดินหน้าทำการผลิตได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังยืนได้
ซึ่งไม่จำกัดแค่ประกันภัยภาค การเกษตร แต่ยังรวมถึงประกันวินาศภัยอื่น ๆ
โดยเฉพาะประกันภัยเพื่อรายย่อย”
-
ผู้แทนสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึง
“ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศต่อภาคเกษตรต้อง
และบทบาทของการประกันภัยในฐานะกลไกสำคัญที่ช่วยรักษาผลิตภาพ และลดความเหลื่อมล้ำ”
- ผู้แทนพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ เผยว่า
“หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงคือการสร้างภูมิคุ้มกัน
ประกันภัยคืออีกหนึ่งรากที่ช่วยให้ต้นไม้แห่งอาชีพเกษตรเติบโตอย่างมั่นคง”
- ผู้แทนสำนักงาน คปภ. เผยว่า
“ประกันภัยคือคู่มือรับมือความเสี่ยงของเกษตรกร ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
บทบาทสำคัญของประกันภัยคือการสร้างความมั่นใจ
และคุ้มครองครอบครัวเกษตรกรในวันที่ไม่ คาดคิด”
นอกจากนี้โครงการ คปภ. เพื่อสังคม ยังมีกิจกรรมเพื่อสังคม
ในการมอบแผงพลังงานโซลาร์เซลล์ให้แก่ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดปทุมธานี เพื่อเสริมสร้างพลังงานทดแทน
ให้พิพิธภัณฑ์ฯ ลดภาระด้านพลังงาน และขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางของสำนักงาน
คปภ.
รองเลขาธิการ คปภ. ยังเน้นย้ำว่าในยุคดิจิทัล สำนักงาน คปภ.
ยังเดินหน้าพัฒนาระบบประกันภัยภาค
การเกษตรให้เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบภาพถ่ายดาวเทียม
การแจ้งเตือนภัยอัตโนมัติ และฐานข้อมูลภัยพิบัติ
เพื่อให้การประเมินความเสียหายเป็นไปอย่างรวดเร็ว โปร่งใส
และลดขั้นตอนที่ยุ่งยากของ เกษตรกร
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. เดินหน้าตามมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ
เพื่อผลักดันการถ่ายโอนความเสี่ยง อย่างเป็นระบบ ลดภาระงบประมาณ
และเสริมความคุ้มครองให้เกษตรกรได้รับการดูแลที่ครอบคลุมมากขึ้น ผ่าน
“ประกันภัยที่ออกแบบเฉพาะสำหรับภาคเกษตรไทย” และ “มุ่งมั่นผลักดันให้ประกันภัยเป็นเครื่องมือสร้าง
ภูมิคุ้มกันทางการเงินของภาคเกษตรไทย เมื่อเกษตรกรมีความรู้ มีเทคโนโลยี
และมีประกันภัยเป็นเกราะคุ้มกัน
ประเทศไทยจะสามารถก้าวข้ามความเสี่ยงและเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”
หากมีข้อสงสัย สายด่วน คปภ. 1186 หรือ เว็บไซต์ www.oic.or.th






