นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้เดินหน้าขยายผลสับปะรดพันธุ์
กวก. เพชรบุรี 2 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี กรมวิชาการเกษตรวิจัยและพัฒนาพันธุ์เพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง
ทดแทนสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่เกษตรกรปลูกเพียงพันธุ์เดียวต่อเนื่องมาเป็นเวลานานทำให้เกิดการกลายลักษณะไม่พึงประสงค์มากขึ้น
เช่น เกิดหนามตลอดทั้งใบ ผลไม่เป็นทรงกระบอก สีเนื้อไม่สม่ำเสมอ อ่อนแอต่อโรค
ผลขนาดเล็กลงส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ
สับปะรดพันธุ์ กวก. เพชรบุรี 2
เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูป
มีอัตราส่วนน้ำหนักเนื้อต่อน้ำหนักผลสูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย
แกนผลเล็กทำให้ได้ปริมาณเนื้อสำหรับแปรรูปสูง อัตราการสูญเสียเนื้อต่ำ ผลทรงกระบอก
เหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง ความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 13.9 – 17.9 องศาบริกซ์
ให้ผลผลิตเฉลี่ย 9 ตัน/ไร่
เกษตรกรที่ได้รับพันธุ์สับปะรดเพชรบุรี 2
ไปปลูกจะได้ผลผลิตมีคุณภาพส่งโรงงานเพื่อแปรรูป
จึงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี เร่งขยายพันธุ์ไปสู่เกษตรกร
นางสาวมัลลิกา นวลแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี
กล่าวว่า
การขยายพันธุ์สับปะรดด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเป็นวิธีการขยายพันธุ์สับปะรดให้ได้ปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้น แต่เกษตรกรอาจจะต้องมีการดูแลมากและปฏิบัติได้ยาก
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีจึงได้พัฒนาวิธีการขยายพันธุ์อย่างง่ายโดยวิธีการตัดช่อดอกอ่อน
ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้จำนวนหน่อปริมาณเพิ่มขึ้น
และลดระยะเวลาการผลิตหน่อ โดยสามารถบังคับการออกดอกได้เมื่อต้นมีน้ำหนัก 1
กิโลกรัม (อายุ 5-7 เดือนหลังปลูก) หลังการบังคับการออกดอกประมาณ 2
เดือนก้านช่อดอกเริ่มยืดตัวจึงตัดช่อดอกอ่อนออกเพื่อให้เกิดการแตกหน่อ
โดยสามารถเก็บเกี่ยวหน่อหลังจากการตัดช่อดอก 2-3 เดือน
ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยลดระยะเวลาการผลิตหน่อลงเหลือ 9-11 เดือน
การขยายพันธุ์สับปะรดพันธุ์ กวก.
เพชรบุรี 2 ได้รับความสนใจอย่างมากจากเกษตรกร
จากการสำรวจความต้องการเบื้องต้นได้รับการตอบรับจากเกษตรกร 8 กลุ่ม รวม 235 ราย
รวมเป็นจำนวนหน่อ 1,975,000 หน่อ
โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีจะจัดทำแผนการผลิตและแจกจ่ายต่อไป
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายหน่อพันธุ์ที่จะส่งมอบให้กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจังหวัด
เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
พร้อมกับได้จัดฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการสับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 2
และการขยายพันธุ์อย่างง่าย เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรนำไปปรับใช้
โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการอบรมจะได้รับหน่อพันธุ์สับปะรดเพชรบุรี
2
จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรีไปสร้างแปลงพันธุ์เพื่อผลิตหน่อพันธุ์แบบการตัดช่อดอกอ่อนกระจายสู่เกษตรกรในกลุ่มเครือข่ายต่อไป
สับปะรดเป็นผลไม้ที่สร้างมูลค่าการส่งออกให้กับประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า
15,000 ล้านบาท ดังนั้นการขยายพันธุ์สับปะรดพันธุ์ กวก.
เพชรบุรี 2
ไม่ใช่เพื่อสนับสนุนกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มผลผลิตและมูลค่าทางเศรษฐกิจเท่านั้น
แต่ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศในระดับที่เติบโตอย่างมั่นคง
มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม
ให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและมีความได้เปรียบสูง
ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ