สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สวก. จัดงานประชุมวิชาการและจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตร
โชว์ศักยภาพงานวิจัย กับ 6 เมกะเทรนด์เปลี่ยนโลก ในงาน “เปลี่ยนวิถีเกษตรไทยด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” ยกระดับประสิทธิภาพภาคเกษตร เพื่อแสดงถึง การส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนางานวิจัยด้านการเกษตร
ซึ่งสอดคล้องกับกลไกการขับเคลื่อนประเทศไทยจากการเกษตรแบบเดิมไปสู่ยุคการเกษตรที่ขับเคลื่อนด้านนวัตกรรม
ตอบโจทย์รัฐบาล ให้เกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี ระหว่างวันที่ 20 - 21
พ.ย.นี้ ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร เปิดเผยว่า
เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ของการจัดตั้งสำนักงานฯ
จึงได้จัดงานประชุมวิชาการและจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเกษตร
ภายใต้หัวข้อ “เปลี่ยนวิถีเกษตรไทย ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” โดยการจัดงานครั้งนี้
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดการประชุมฯ พร้อมพระราชทานโล่รางวัล
ให้กับนักวิจัยดีเด่น และงานวิจัยดีเด่น จำนวน 4 รางวัล ได้แก่
1.รางวัลโครงการวิจัยดีเด่น ได้แก่ ชุดโครงการความต้องการโภชนะของโคนมในประเทศไทย (กรมปศุสัตว์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น) 2. รางวัลนักวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2566 ได้แก่ ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล 3.รางวัลนักเรียนทุน
สวก.ที่มีผลงานวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2566 ได้แก่ นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง
รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
ซึ่งมีผลงานวิจัยที่สนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านดิจิทัล (Big data) ด้านการเกษตรของประเทศไทยสู่เวทีโลก 4. รางวัลผู้ประกอบการ สวก. ดีเด่น
ที่นำผลงานวิจัยด้านการเกษตรไปใช้ประโยชน์
ได้แก่ บริษัท ไฟโตไบโอติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ จัดภายใต้ธีมงาน
“พลิกโฉมเกษตร สู่ตลาดสากล ด้วย 6
เมกาเทรนด์เปลี่ยนโลก”
โดยนำผลงานความสำเร็จจากงานวิจัยและนวัตกรรมของ สวก.และเครือข่ายพันธมิตร
มาจัดแสดงภายในงาน ประกอบด้วย 4 โซนหลัก ได้แก่
1.นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นำเสนอผลงานของ สวก. ที่สนองพระราชปณิธานด้านการเกษตร
เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรในประเทศไทย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ
พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดี
ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร
พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ
สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่องานวิจัยด้านการเกษตรของไทย
2.นิทรรศการ 20 ปี สวก. และ ARDA Award นำเสนอผลงานวิจัยเด่นของ สวก. ในรอบ 20 ปี ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ
นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”
ที่ช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร รวมถึงสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ
โดยเป็นผลงานวิจัยและนวัตกรรมในด้านต่างๆ อาทิ
·
Smart Farm for Future Agriculture
·
Machinery Plus for Value Added
·
Miracle of
Biodiversity
·
Food for the
Future
·
Better Forecast
for Better Life
·
Policy for Life
and Trade
3.โซนนิทรรศการ 6 Mega Trends เปลี่ยนโลก
นำเสนองานวิจัยที่ร่วมขับเคลื่อนและพัฒนา ภาคเกษตรไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในเวทีโลก
ประกอบด้วย
1) Agritechnology
2) Coffee & Tea
3) Food & Beverage
4) BCG
5) Health & Beauty
6) Agricultural Sustainability
4.โซนนิทรรศการของหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยในระบบ ววน.
นำเสนอ บทบาท
ภารกิจและผลงานของหน่วยงานบริหารจัดการทุนวิจัยในระบบ ววน. ที่ทำหน้าที่ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและบริหารงบประมาณวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
สำหรับตัวอย่างผลงานวิจัยเด่นที่จัดแสดงภายในงาน
อาทิ เทคโนโลยีน้ำแข็งเหลวโอโซน หรือ Slurry
ice สำหรับยืดอายุการเก็บรักษาสัตว์น้ำ
สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหารทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ปลากะพงขาวที่เก็บรักษาในน้ำแข็งเหลวโอโซน พบว่า
ไม่มีจุลินทรีย์ก่อโรค ตลอดช่วงระยะเวลาในการเก็บรักษานานถึง 12 วัน นอกจากนี้
ยังมีผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย ที่น่าสนใจ
เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรตีนสูงจากไข่น้ำ/ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนวัตกรรมสมุนไพรจากพลูคาว
/ ผลิตภัณฑ์ไฮโดรเจลสมานแผล / ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงจากสารสกัดข้าวสังข์หยด
ภายในงานยังมีปาฐกถาและการบรรยายที่น่าสนใจ
อาทิ ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ภาพรวมผลกระทบที่มีต่อภาคเกษตร และการเตรียมการรับมือ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” โดย
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการ สศก. / การบรรยาย หัวข้อ “เกษตรไทยจะเปลี่ยนไปด้วยวิจัยและพัฒนา"
โดยท่านปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ /
การเสวนา หัวข้อ “ก้าวทันสภาวะอากาศที่เปลี่ยนไป
กับอนาคตเกษตรไทยเปลี่ยนแปลง” และหัวข้อ “นวัตกรรมอาหารไทย สู่ความมั่นคงอาหารโลก” ส่วนในวันที่
21 พฤศจิกายน ยังมีพิธีลงนาม MOU
การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
และผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ระหว่าง สวก. กับ
องค์การเภสัชกรรม และ MOU การพัฒนางานด้านปศุสัตว์ ระหว่าง สวก.
กรมปศุสัตว์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น อีกด้วย
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานรวมทั้งนำเสนอความสำเร็จและความภาคภูมิใจของ
สวก. แล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพงานวิจัย และยังต้องการให้ประชาชนทุกกลุ่ม
ทุกเพศทุกวัย ได้มาศึกษาหาความรู้ อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร
รวมถึงเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน นักลงทุนและนักธุรกิจได้พบปะนักวิจัยและสัมผัสกับงานวิจัยของจริง
เพื่อนำผลงานวิจัยไปต่อยอดในเชิงธุรกิจต่อไปด้วย