กรมประมง...จัดชุดเฉพาะกิจพิเศษ “ฉลามขาว”
เดินหน้ายกระดับการกวาดล้างสินค้าสัตว์น้ำที่ผิดกฎหมาย
ตามนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อนของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปิดช่องโหว่การลักลอบการนำเข้าสินค้าเถื่อน
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบโดยรวมกับเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต
ดร.ถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง
กล่าวในฐานะโฆษกกรมประมงว่า...ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้มีนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน
มุ่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
โดยมอบเป็นนโยบายเร่งด่วนให้ดำเนินการทันที เพื่อเป็นการสนองนโยบายดังกล่าว
กรมประมง ได้ใช้กลไกลชุดเฉพาะกิจพิเศษภายใต้ชื่อ ฉลามขาว
ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบสินค้าประมงที่ผิดกฎหมายทั่วประเทศ
พร้อมเริ่มปฏิบัติการตามแนวทางที่วางไว้ทันที โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
เพิ่มความเข้มงวดในการลงพื้นที่ออกตรวจสอบสินค้าให้มากขึ้น
มุ่งเน้นปฏิบัติหน้าที่แบบบูรณาการ พร้อมรายงานผลการดำเนินงานต่อเนื่อง
ซึ่งหากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
สำหรับชุดเฉพาะกิจพิเศษ ฉลามขาว เป็นชุดเฉพาะกิจเน้นในเรื่อง ควบคุม
ป้องกัน รวมถึงการลักลอบการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่ผิดกฎหมาย
ได้ดำเนินการปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย อาทิ
สัตว์น้ำสวยงามมีชีวิต ปะการัง ดาวทะเล จระเข้และผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าคุ้มครอง
โดยศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมง 10 ศูนย์ และด่านตรวจประมง 24 ด่าน
ทั้งด่านทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ซึ่งครอบคลุมด่านนำเข้า –
ส่งออกสินค้าประมงทั่วประเทศไทย โดยได้ดำเนินการตรวจป้องกันการลักลอบนำเข้า –
ส่งออกสินค้าประมงอย่างเข้มงวดมาอย่างต่อเนื่อง
และมีการสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และกรมศุลกากร
ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกรณีการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงภายใต้พระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบการกระทำความผิดนำเข้า ส่งออก
หรือนำผ่านราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น
พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 92 มีโทษปรับ 5
เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำ พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ 2558 ฝ่าฝืน มาตรา 31
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมากรมประมงได้เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาทักษะให้กับชุดเฉพาะกิจพิเศษฉลามขาว
ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ได้แก่
การเพิ่มศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีตามกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพเกี่ยวกับการดำเนินคดีกับเรือประมงและสัตว์น้ำ
การพัฒนาศักยภาพ
ในการจำแนกชนิดพันธุ์สัตว์น้ำของเจ้าหน้าที่
การพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการประเมินความเสี่ยง
และการปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีในการควบคุมตรวจสอบการนำเข้าสัตว์น้ำและสินค้าสัตว์น้ำ
และการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมตรวจสอบการนำเข้าสัตว์น้ำและสินค้าสัตว์น้ำ
เป็นต้น
การขับเคลื่อนยุทธการปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออก
สินค้าทางการเกษตรเถื่อนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากการลักลอบนำสินค้าเข้ามาจำหน่าย ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าประมงภายในประเทศ
นอกจากการปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออก
สินค้าทางการเกษตรเถื่อนแล้วยังได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปทราบ
ถึงผลกระทบของการลักลอบและกฎระเบียบต่าง ๆ
รวมถึงขอความร่วมมือให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ
กรณีพบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ระบบรับเรื่องร้องเรียนผ่านเว็บไซต์กรมประมง
(https://www.fisheries.go.th/complain/accept_justice.php) สายด่วนกรมประมง
0-2579-1878 หรือ 0-2579-3614-5
และศูนย์บริการนำเข้าส่งออกสัตว์น้ำและปัจจัยการผลิต...รองอธิบดีกรมประมง
กล่าวทิ้งท้าย