ซินเจนทา
ผู้นำระดับโลกด้านเกษตรกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘โซนิวา’ (SONIVA) ที่ส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพในภูมิภาคอาเซียน ณ
โรงงานผลิตเมล็ดพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์พืชโคกตูม-พัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
โดยมีจุดมุ่งหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางขยายตลาดเมล็ดพันธุ์พืช
พร้อมทั้งโซลูชั่นและบริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเจาะกลุ่มเกษตรกรรายย่อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยได้เข้าถึงสินค้าทางการเกษตรที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของเกษตรกรรายย่อยได้มากที่สุด
แบรนด์โซนิวา
เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง บริษัท ซินเจนทา ซีดส์ (ประเทศไทย) จำกัด กับ บริษัท ACSEN Agriscience Limited ซึ่งเป็นบริษัทเมล็ดพันธุ์พืชรายใหญ่ของประเทศอินเดีย
โดยร่วมมือนำนวัตกรรมด้านพันธุ์พืชและความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีการผลิตพืช
เพื่อเปิดตัวในประเทศไทย
ซึ่งมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพร้อมขยายไปยังตลาดที่สำคัญทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์
โดยโซนิวามุ่งเน้นการเข้าถึงเกษตรกรรายย่อยเป็นหลัก
ให้เกษตรกรกลุ่มนี้ได้เข้าถึงเมล็ดพันธุ์ดี มีคุณภาพสูง
รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ที่มีความหลายหลายทางพันธุกรรมและตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น
เมล็ดพันธุ์พืชของโซนิวามีหลากหลายชนิด ได้แก่ ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดข้าวเหนียว,
มะเขือเทศ, พริก, ถั่วแขก,
กระเจี๊ยบ, บวบงู, น้ำเต้า,
ถั่วฝักยาว, ฝ้กเขียว, แตงกวา,
เมล่อน, บวบ, มะระขี้นก,
ฟักทอง และแตงโม เป็นต้น
นายไมค์ ไซ
ผู้บริหารฝ่ายวางแผนธุรกิจโซนิวาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัทซินเจนทา
กล่าวว่า “โซนิวาไม่ใช่เป็นเพียงธุรกิจ แต่เป็นระบบนิเวศแบบครบวงจร
ที่ประกอบไปด้วยพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
และให้ความสำคัญกับความต้องการของเกษตรกรซึ่งเป็นหัวใจหลัก
ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนช่วยยกระดับภาคการเกษตร
โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหลักของการลงทุนในครั้งนี้ที่จะช่วยนำร่องและขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ
ทั่วภูมิภาคอาเซียน”
การเปิดตัวของโซนิวา
ถือเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ที่มีการนำเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางการเกษตรแบบเฉพาะทางที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของเกษตรกรรายย่อยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในอนาคตโซนิวามุ่งหวังที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกรรายย่อยในภูมิภาคและมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดต่าง
ๆ รวมทั้งการสร้างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆ
ที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความท้าทายของเกษตรกรกลุ่มนี้
โดยมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 23 ชนิด ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2567
ทีมงานของโซนิวามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความต้องการและอุปสรรคต่าง
ๆ ของอุตสาหกรรมเกษตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้วยความเชี่ยวชาญและความคล่องตัวในการดำเนินงานนี้
จึงช่วยให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
โซนิวาตระหนักดีว่า
เกษตรกรต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงและความแปรปรวนทางสภาพภูมิอากาศ ทั้งฝนผิดฤดูกาล
ภัยแล้ง น้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก โรคพืชและแมลงรบกวน
ดังนั้นการมีเมล็ดพันธุ์ที่หลากหลาย คุณภาพสูง ที่แสดงศักยภาพเฉพาะทาง อาทิ ทนแล้ง
ทนโรค ทนต่อการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นทางออกและตัวช่วยที่สำคัญสำหรับเกษตรกร
“ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารดิจิทัลที่แข็งแกร่ง
ทำให้ทีมของเราสามารถแนะนำข้อมูลต่างๆกับพี่น้องเกษตรกรทำการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งโมเดลในรูปแบบนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงและใกล้ชิดกับพี่น้องชาวเกษตรกร
เพื่อช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้น เราเป็นพันธมิตรด้านเมล็ดพันธุ์ที่จะนำพาความสำเร็จมาให้และเราตระหนักดีว่า
พี่น้องชาวเกษตรกรไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกค้าแต่เป็นกระดูกสันหลังของประเทศ
และเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เสมอมา นี่คือหัวใจหลักของโซนิวา” นายไมค์ ไซ
กล่าวเสริม