ฟอร์ด ประเทศไทย
นำคณะสื่อมวลชนเกษตรและผู้นำกลุ่มเกษตรกร
เยี่ยมชมฟาร์มพืชและฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดสุพรรณบุรี
ภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘ฟอร์ดสายดุดัน ตะลุยสุพรรณฯ ไปกับ Ranger’ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์
ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย และเทคโนโลยีชาญฉลาดตอบทุกโจทย์งานเกษตร
พร้อมร่วมเจาะลึกแลกเปลี่ยนความรู้กับเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ ตอกย้ำแนวคิดหลัก
‘ฟอร์ด แกร่ง...ทุกงานเกษตร’
คณะสื่อมวลชนและเกษตรกรออกเดินทางจากกรุงเทพฯ
มุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีจุดหมายแรก คือ
ชุมชนเกษตรสร้างสรรค์สมหวังที่วังยาง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
หนึ่งในแหล่งเพาะปลูกแห้วขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่บริหารจัดการโดยสมาชิกในชุมชน
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างสรรค์แห่งนี้
เปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น
การปลูกแห้วแบบปลอดสารพิษ การเก็บแห้ว และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากแห้วสด อาทิ
เฟรนช์ฟรายแห้ว น้ำแห้วสด หรือทับทิมกรอบ รวมถึงการแปรรูปด้านหัตถกรรม เช่น
ชะลอมและตะกร้าใส่ไข่จากต้นแห้ว พัฒนาเป็นการเรียนรู้วิถีชุมชนทำแห้วที่ครบวงจร
และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
จากนั้นสื่อมวลชนออกเดินทางสู่
ฟาร์มโคบราห์มันและแพะ ไร่นุชยบุตร อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
ซึ่งมีพื้นที่กว่า 100 ไร่ ของคุณประพันธ์
นุชยบุตร เจ้าของฟาร์มที่เป็นคนรักฟอร์ดตัวจริงที่เลือกใช้รถฟอร์ดถึง 4 คันตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด เรนเจอร์
ไวล์ดแทรค สำหรับบรรทุกอุปกรณ์เพื่อการใช้งานในฟาร์ม ฟอร์ด เอเวอเรสต์
สำหรับการใช้งานอเนกประสงค์ภายในครอบครัว ไปจนถึงฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์
รถกระบะสมรรถนะสูงที่ตอบโจทย์การขับขี่ทางลุยหรือออฟโรด และฟอร์ด มัสแตง
รถสปอร์ตระดับตำนาน
คุณประพันธ์ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมฟาร์มเพาะเลี้ยงโคอเมริกันบราห์มันและแกะสายพันธุ์ไวท์ดอเปอร์นำเข้าจากแอฟริกาใต้
พร้อมแบ่งปันข้อมูลวิธีการเลี้ยงดูและการผสมเทียม
รวมถึงการทำรายได้จากการเพาะพันธุ์พ่อและแม่พันธุ์วัวและแกะสำหรับเกษตรกรที่ต้องการขยายธุรกิจฟาร์มโคและแกะสายพันธุ์นอก
ซึ่งนับเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เลี้ยงดูไม่ยุ่งยาก ให้ผลผลิตเป็นเนื้อคุณภาพดี
ขายได้ราคาสูงกว่าเนื้อวัวและเนื้อแกะพันธุ์ไทยหลายเท่า
ภายในพื้นที่ไร่นุชยบุตร
ฟอร์ดยังได้นำรถฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6
รถกระบะรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด
มาจัดแสดงสมรรถนะที่ตอบโจทย์งานปศุสัตว์ได้อย่างหลากหลาย เช่น
การบรรทุกฟางข้าวอัดก้อนสำหรับเลี้ยงวัว
อีกทั้งยังเหมาะกับการใช้งานในฟาร์มที่ต้องการพละกำลังและแรงบิดสูงเพื่อการลากจูงและการขับขี่แบบออฟโรด
นอกจากนี้ ตลอดกิจกรรม ผู้เข้าร่วมทริปยังได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงจากขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล
3.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter
ในฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค วี 6
ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อย่าง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A
4WD และระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน
ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เกษตรกรลุยงานในสวนหรือฟาร์มได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
จากนั้น
คณะสื่อมวลชนและกลุ่มเกษตรกรได้เดินทางไปยัง ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุพรรณบุรี
อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานและหาแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งให้แก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ที่ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอสองพี่น้อง
อำเภอบางปลาม้า และอำเภอดอนเจดีย์ โดยชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุพรรณบุรี
ดำเนินธุรกิจฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามและกุ้งขาวในระบบผสมบ่อเดียวกัน
เนื่องจากกุ้ง 2 สายพันธุ์จะช่วยเกื้อกูลกัน
หากเลี้ยงกุ้งก้ามกรามอย่างเดียวอาจพบปัญหากุ้งโตช้า ตายง่าย
หรือหากเลี้ยงกุ้งขาวอย่างเดียวก็มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการติดโรค การเลี้ยงกุ้ง 2 สายพันธุ์ร่วมกันยังช่วยสร้างความมั่นคงด้านรายได้
หากในช่วงฤดูกาลที่กุ้งก้ามกรามราคาตก
กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก็ยังทำรายได้จากการขายกุ้งขาว และในช่วงฤดูกาลที่กุ้งขาวราคาตก
ก็ยังทำรายได้จากการขายกุ้งก้ามกรามทดแทนได้
ในทริปนี้ ฟอร์ดยังได้นำรถฟอร์ด
เรนเจอร์ รุ่น XLS กระบะยกสูงเกียร์อัตโนมัติ
ราคาคุ้มค่า ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลาย มาพร้อมตัวเลือกทั้งแบบ 4 ประตู และแบบตอนครึ่ง ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.0
ลิตร เทอร์โบเดี่ยว และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
มาสาธิตสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานของเกษตรกรแบบอเนกประสงค์
ทั้งการขับขี่แบบสมบุกสมบัน
การบรรทุกผลผลิตแห้วจากชุมชนเกษตรสร้างสรรค์สมหวังที่วังยาง
และโชว์สมรรถนะบรรทุกอาหารเลี้ยงกุ้งขาวและกุ้งก้ามกรามที่ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุพรรณบุรี
ด้วยฐานล้อกว้าง ทำให้รถฟอร์ด เรนเจอร์
ได้เปรียบเรื่องของพื้นที่กระบะที่บรรทุกผลผลิตได้ปริมาณมากและรองรับพาเลตสินค้าขนาดมาตรฐาน
ในส่วนของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีมาให้รองรับการใช้หลายรูปแบบ อาทิ
บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ที่ออกแบบมาให้ขึ้นลงกระบะได้ง่ายโดยไม่ต้องปีนล้อรถ
พื้นที่กระบะท้ายยังเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานเคลื่อนที่ได้
บริเวณฝาท้ายยังมีจุดยึดอุปกรณ์ช่าง 2 จุด
พร้อมไม้บรรทัดวัดขนาดแบบบิลท์อินช่วยให้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นหากเกษตรกรต้องการวัดขนาดสินค้า
กล้องมองหลังขณะถอยจอด ช่วยให้ผู้ขับขี่ถอยจอดแบบเข้าซองได้อย่างปลอดภัย
ด้วยการแสดงภาพด้านหลังรถผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.1
นิ้ว บนคอนโซลกลาง เหมาะกับธุรกิจเกษตรที่ต้องขนส่งสินค้าเป็นประจำ
เนื่องจากบางพื้นที่อาจมีสิ่งกีดขวางทำให้จอดรถลำบาก
ตลอดระยะทางกว่า 150 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ บนทางหลวงที่มีทั้งทางตรงสลับโค้งสู่จังหวัดสุพรรณบุรี คณะสื่อมวลชนเกษตรและผู้นำกลุ่มเกษตรกรได้ร่วมเดินทางไปกับคาราวานฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มีหลากหลายรุ่นย่อย ให้ผู้ร่วมทางได้แบ่งกลุ่มกันทดสอบขับขี่และสัมผัสความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทันสมัยด้วยหน้าจอทัชสกรีน SYNC®4A สำหรับควบคุมฟีเจอร์ความสะดวกสบายต่างๆ ภายในรถอย่างง่ายดาย พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ผ่านการสั่งงานด้วยเสียงมอบความบันเทิงระหว่างเดินทาง
“ฟอร์ดรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมของประเทศ
ผ่านการสื่อสารเรื่องราวความสำเร็จของฟาร์มพืชและสัตว์ที่ได้รับความนิยมและเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจ
และเรายังมั่นใจว่ารถฟอร์ด เรนเจอร์ จะเป็นคู่หูให้กับทุกงานเกษตรได้ ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น
เทคโนโลยีทันสมัย ระบบความปลอดภัยครบครัน และฟีเจอร์มากมายในราคาที่คุ้มค่า
สมกับนิยาม ‘กระบะพันธุ์แกร่งขวัญใจเกษตรกร’” นางสาวกมลชนก ประเสริฐสม
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย และตลาดอาเซียน กล่าว