เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด “งานถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2567” โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมงานดังกล่าว ณ แปลงนาศิลปะเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 หมู่ 3 ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ
และมุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวจากการใช้เมล็ดข้าวคุณภาพพันธุ์ดี
ซึ่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวในวันนี้
ทางศูนย์ข้าวชุมชนและเกษตรกรจะได้รับความรู้ ความเข้าใจ
ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อพัฒนาต่อยอด
สร้างโอกาสในการเพิ่มคุณภาพผลผลิตและผลตอบแทนจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพและร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พยายามผลักดันภาคการเกษตร
โดยการใช้นวัตกรรมเข้ามาส่งเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น และมีคุณภาพยิ่งขึ้น
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกได้ ซึ่งโครงการต่าง ๆ
ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าวได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ล้วนเป็นการพัฒนาภาคการผลิตให้มีประสิทธิภาพ สามารถสู้กับข้าวจากต่างประเทศได้
สำหรับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ภาคการผลิตที่จะนำไปสู่โครงการใช้ปุ๋ยแม่นยำ
เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร และเพิ่มคุณภาพข้าว ซึ่งไม่ใช่โครงการเดียวกันกับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
หรือโครงการไร่ละ 1,000 บาท
ที่รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเกษตรกรในช่วงที่ข้าวราคาตกต่ำ
หากโครงการปุ๋ยคนละครึ่งไม่สามารถดำเนินการได้ทันในฤดูการผลิตนี้
ก็จะถือเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อดำเนินการในปีถัดไป และจะพยายามทำให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ จะเร่งพัฒนาคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่
ๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพข้าว ทั้งในเรื่องของกลิ่นและรสชาติ
เพื่อทวงความเป็นแชมป์ของไทยกลับคืนมา นอกจากนี้ ยังสนับสนุนข้าวพันธุ์ GI ในการสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีข้าว GI กว่า 30 สายพันธุ์
ที่เหมาะสมในการปลูกในแต่ละพื้นถิ่น จึงขอยืนยันว่ากระทรวงเกษตรฯ ไม่เคยหยุดนิ่ง
และพร้อมที่จะขับเคลื่อนตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพื่อเพิ่มรายได้
และมุ่งหวังในการสร้างความมั่นคงให้กับภาคการเกษตรให้เกิดความยั่งยืนต่อไป”
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ด้านนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า
สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้
เป็นการรณรงค์ให้เกษตรกรได้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว
โดยจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ
การบรรยายความรู้ทางวิชาการ โดยวิทยากรผู้มีความรู้และประสบการณ์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงและการสาธิตนวัตกรรม
เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของชุมชน เช่น
เครื่องจักรกลการเกษตร โดรนเพื่อการเกษตร เป็นต้น
และมีการจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรูปจากข้าว โดยกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ กรมการข้าวยังได้จัดกิจกรรมเทิดไท้ 72 พรรษา สู่ผืนนาพิศาลศิลป์
จากพระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เราจะสืบสาน รักษา
ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรต่อไป
ก่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนาไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น
ทรงห่วงใยพสกนิกรในเรื่องของความมั่นคงทางอาหาร
ทรงส่งเสริมการพัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อการเพาะปลูก
ทรงมุ่งเน้นการพัฒนาความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ รวมถึงทรงให้ความสำคัญต่อข้าว
ซึ่งเป็นพืชอาหารหลักของคนในชาติให้เกิดเสถียรภาพในการเพาะปลูกและสร้างผลิตผล
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกรมการข้าวและชาวนาไทยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่องานด้านข้าวและชาวนาไทย
จึงจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติผ่านผลงาน "เทิดไท้ 72
พรรษา สู่ผืนนาพิศาลศิลป์" เป็นการสร้างสรรค์ศิลปะบนผืนนาข้าว
ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการสนับสนุนให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของข้าวไทย
อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและสร้างการรับรู้ความหลากหลายของพันธุ์ข้าวไทย
ความสวยงามของผืนนาไทยผ่านแปลงนาศิลปะที่เกิดจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการทำนารูปแบบต่าง
ๆ ให้เกษตรกรและบุคคลที่สนใจต่อยอดเป็นองค์ความรู้ใหม่ ๆ ต่อไป
ในส่วนของพื้นที่ที่ดำเนินการจัดทำแปลงนาศิลปะ 72 พรรษา
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 ภาคเหนือ ได้แก่
ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวพะเยา ศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ภาคอีสาน
ได้แก่ ศูนย์วิจัยข้าวนครราชสีมา ศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอุดรธานี ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ ภาคกลาง ได้แก่
ศูนย์วิจัยข้าวชัยนาท ศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา
กองประสานงานโครงการพระราชดำริ ภาคใต้ ได้แก่ ศูนย์วิจัยข้าวปัตตานี
ศูนย์วิจัยข้าวนครศรีธรรมราช