(19 กันยายน 2567) สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แย้งรัฐมนตรีพาณิชย์ หมูไทยแพง
มาจากนโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่ทำไว้ให้วัตถุดิบอาหารสัตว์แพงที่สุดในโลก
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แก้ข้อสงสัยให้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์นายพิชัย
นริพทะพันธุ์
ที่อ้างช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์สื่อว่าเนื้อสุกรลักลอบนำเข้าจากประเทศบราซิลทำไมถูก
ทั้ง ๆ ที่เสียค่าใช้จ่ายใต้โต๊ะรายทาง และมาวางขายในตลาดเมืองไทยมีราคาถูกกว่าหมูในประเทศ
ข้อเท็จจริงคือเป็นเพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ของบราซิลต่ำมาก
ขณะที่โครงสร้างต้นทุนการผลิตสุกรของประเทศไทยที่มีต้นทุนส่วนใหญ่
65-70% มาจากวัตถุดิบอาหารสัตว์
ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลนโยบายโดยกระทรวงพาณิชย์นั้นมีราคาสูงมาก
ทั้งกลุ่มพืชโปรตีน ได้แก่ กากถั่วเหลือง ซึ่งมีการบวกกำไรเกินกว่าเหตุ
จนทำให้วัตถุดิบอาหารสัตว์กลุ่มโปรตีนของไทยเป็นกลุ่มที่มีราคาสูงที่สุดในโลก
รวมถึงข้าวโพดในไทยที่แพงถึงกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัม
ในขณะที่ราคาข้าวโพดต่างประเทศอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับราคา
5-6 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
นี่คือสาเหตุหลักที่ รมว.พาณิชย์
ควรต้องเข้าไปดูโครงสร้างการกำหนดราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์
ที่ถือว่าแตะต้องไม่ได้มาเป็นเวลา 7
ปี ซึ่งมีมาตรการ 3 ต่อ 1
ที่ยังคงทำให้ราคาขช้าวโพดสูงอย่างต่อเนื่องและมีเงื่อนงำ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่กลุ่มเกษตรกรมีการเรียกร้องเรื่องนี้มาตลอด
ซึ่งคาดว่ากลุ่มเกษตรกรรายย่อยน่าจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมาย เช่น
การยื่นร้องเรียนการประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
จากการไม่ได้รับคำตอบหรือการแก้ไข ในกรณีเรื่องนี้ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
หรือ ปปช. ในเร็วๆนี้ เช่นกัน
ด้านนายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม
ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า
รัฐบาลควรพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร
หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไขเชื่อว่าผู้เลี้ยงสามารถทำต้นทุนเฉลี่ยได้ 60 บาทต่อกิโลกรัม แข่งขันกับบราซิลได้แน่นอน
ที่สำคัญเนื้อหมูไทยคุณภาพดี ปลอดภัยจากสารเร่งเนื้อแดง
และสดสะอาดกว่าหมูที่มาจากบราซิล
“รัฐบาลควรมองมุมกลับ
แทนที่จะนำเข้าหมูจากบราซิลหรือขายหมูไทยให้ถูกเท่ากับบราซิล
เปลี่ยนเป็นการส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงหมูไทยผลิตเพื่อการส่งออกเหมือนกับบราซิลจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
นอกจากจะช่วยนำเงินตราเข้าประเทศแล้วยังช่วยให้คนไทยได้บริโภคเนื้อหมูในราคาที่เหมาะสม
ช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนตามเป้าหมายของรัฐบาล
และยังช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตจากการส่งออกเนื้อสัตว์” นายเดือนเด่น
กล่าวย้ำ