ปัจจุบันเกษตรกรต้องการผลผลิตที่ดีที่สุดทั้งในด้านคุณภาพและเพิ่มปริมาณผลผลิต
เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดตามจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเกษตรกรไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน
ดินเสื่อมโทรม วงจรชีวิตแมลงที่สั้นลงทำให้เกิดการระบาดเร็วขึ้น
และโรคพืชที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต นักวิทยาศาสตร์จึงได้ศึกษาค้นคว้าวิจัย
และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยเกษตรกรเพื่อลดความสูญเสีย
ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญที่กำลังได้รับความสนใจและเข้ามาช่วยยกระดับภาคการเกษตรในการเพิ่มผลผลิตและสร้างความยั่งยืนในระยะยาวก็คือ
การใช้สารกระตุ้นทางชีวภาพ (Bio-Stimulants) ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการฟื้นฟูดิน
เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ธาตุอาหาร เสริมศักยภาพการเจริญเติบโตของพืช
ทำให้พืชสามารถรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
รวมถึงเพิ่มคุณภาพและเพิ่มปริมาณของผลผลิตเพื่อให้ภาคการเกษตรไทยมีความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ซินเจนทา และ วาลาโกร ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางชีวภาพ
เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารพืชและสารบำรุงพืช ได้คิดค้นและพัฒนา “เกียพาวเวอร์ (GEA
POWER)” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพลิขสิทธิ์เฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อเสริมประสิทธิภาพของสารกระตุ้นทางชีวภาพ
โดยใช้สารสกัดจากพืชธรรมชาติ
ผ่านกระบวนการคัดเลือกและสกัดสารออกฤทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช
โดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น จีโนมิกส์ โปรตีโอมิกส์ และฟีโนมิกส์
เพื่อให้ได้โซลูชันที่เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดและแต่ละช่วงการเจริญเติบโต
มีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับการเกษตรของไทย
โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสารกระตุ้นทางชีวภาพของซินเจนทา
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มช่วยลดความเครียดของพืช และเร่งการเจริญเติบโต
โดยจะช่วยกระตุ้นให้พืชออกดอก ติดผลดีขึ้น ลดการหลุดร่วง
สามารถเติบโตได้แม้ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย และกลุ่มเสริมธาตุอาหารและบำรุงดินที่เสริมศักยภาพของพืช
เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหาร ทำให้พืชแข็งแรง ผลผลิตได้คุณภาพ
และช่วยฟื้นฟูสุขภาพของดินในระยะยาว
นายพิษณุ อภิราชกมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท
ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จํากัด กล่าวว่า
“เกียพาวเวอร์ (GEA POWER) เป็นเทคโนโลยีที่ซินเจนทาพัฒนาขึ้น
เพื่อตอบสนองความต้องการของพืชในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต อย่าง ‘เอ็มซี เซท’
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สารกระตุ้นทางชีวภาพ ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างตาดอก
ให้ดอกและเกสรสมบูรณ์ ลดการหลุดร่วงของดอกและผล ในขณะที่ ‘เอ็มซี เอ็กซ์ตร้า’ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการปรับสมดุลในระยะการเจริญเติบโตทางลำต้น
ใบ ทำให้มีผลสวยสม่ำเสมอ และเพิ่มวงรอบการเก็บเกี่ยวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลต่อการแทรกซึมกลุ่มธาตุอาหารเข้าสู่พืชได้ดียิ่งขึ้น
เช่น เบรซิล มัลติ และเบรซิล แคลโบ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของพืช เพิ่มคุณภาพ
ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรไทย เพราะผลลัพธ์ที่ได้คือผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
คุณภาพที่ดียิ่งขึ้น คุ้มค่าในการลงทุน
ที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม”
“เราเชื่อว่า
การเกษตรที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้
หากมีการผสมผสานความรู้กับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ซึ่งเทคโนโลยีเกียพาวเวอร์ (GEA POWER) จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญต่อภาคเกษตรกรรมของไทย
เพราะไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มคุณภาพ เพิ่มผลผลิต
แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับภาคเกษตรกรรมไทย
ตอกย้ำความมุ่งมั่นของซินเจนทาในการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเกษตรกรรมไทยสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนอย่างแท้จริง”
นายพิษณุ อภิราชกมล กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตามแม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด
การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
ซินเจนทา ประเทศไทย
จึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจกับเกษตรกรในการใช้สารกระตุ้นทางชีวภาพอย่างถูกต้อง
ผ่านการจัดอบรมและถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
เพราะความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้เกษตรกรมีทักษะสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และต่อยอดความสำเร็จได้ในระยะยาว
ถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมไทยได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง