20 พ.ค. 68 เวลา 15.00 น. ฤกษ์งามยามดี
เปิดตัวทุเรียนและเก็บเกี่ยวชุดที่ 2 ได้ผลผลิตเพิ่มเป็น
2 เท่า จากปี 2566 โดย
รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม
ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน และ ตัดทุเรียนพันธุ์กบสุวรรณ ชุดแรกของปี 2568
ทั้งนี้ หลังจากเมื่อวันที่ 18
พฤษภาคม 2566 ท่านอธิการบดีจงรัก วัชรินทร์รัตน์ ได้ให้เกียรติภาควิชาพืชสวน
คณะเกษตร ตัดทุเรียนชุดแรกของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในรอบ 80
ปีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ 66 ปีภาควิชาพืชสวน ในวันดังกล่าวภาควิชาฯ
ได้ให้นิสิตเก่าและผู้สนใจจองทุเรียนผลละ 5,000
บาท
นอกจากได้รับประทานทุเรียนคุณภาพสูงแล้ว ยังได้ลดหย่อนภาษี 2 เท่าด้วย
ภาควิชาฯ ได้มอบเงินที่ได้จากการอุดหนุนทุเรียนเป็นเงินจำนวน 66,080 บาท (66 คือ ครบรอบ 66
ปีภาควิชาพืชสวน และ 80 คือ ครบรอบ 80 ปีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
ให้กับมหาวิทยาลัยฯ
เพื่อสมทบทุนการก่อสร้างโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2566
พันธุ์ทุเรียนที่ออกดอกติดผล ณ แปลงทดลอง 2 เรือนองุ่นปวิณ ปุณศรี
ประกอบด้วยพันธุ์กบสุวรรณ มูซานคิง หนามดำ และจันทบุรี 9 ส่วนพันธุ์หมอนทอง สาลิกา ทองลินจง หลงลับแล จันทบุรี 1 และจันทบุรี 4
ไม่ออกดออกติดผล
หลังจากนั้นประมาณเดือนมิถุนายน 2566
ภาควิชาฯ ได้เพาะเมล็ดลูกผสมหนามดำ มูซานคิง และกบสุวรรณ เมื่อต้นงอกและเติบโต
ในปี พ.ศ. 2567 จึงนำมาลูกผสมดังกล่าวมาเสียบยอดแบบเสียบข้างบนต้นตอพันธุ์พื้นบ้าน
ปัจจุบันต้นพันธุ์ลูกผสมมีการเจริญเติบโตดีมาก คาดว่าน่าจะให้ผลผลิตในอีก 3-5
ปีข้างหน้า
ในปี พ.ศ. 2567
ทุเรียนต้นเดิมที่ออกดอกติดผลในปี พ.ศ. 2566 ออกดอกทั้ง 4 พันธุ์ และพันธุ์หมอนทอง
แต่ทุกพันธุ์ไม่ติดผล เนื่องจากช่วงที่เริ่มออกดอกประมาณเดือนธันวาคม 2566 มีไรแดงเข้าทำลายที่ใบแก่
(เป็นชุดใบที่เตรียมพร้อมสำหรับใช้เพื่อการออกดอก) และบางส่วนเข้าทำลายดอก
เมื่อดอกบาน จึงไม่สามารถติดผลได้ เพราะต้นทุเรียนมีอาหารสะสมน้อย
ดอกจึงร่วงทั้งหมด หลังจากนั้นยังมีเชื้อรา Fusarium เข้าทำลายต้นทุเรียน มีลักษณะอาการยอดแห้งจากปลายกิ่งลงมา
และเริ่มสังเกตได้จากไม่มีการแตกยอดใหม่ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 จากนั้นประมาณเดือนมิถุนายน
2567 พบอาการรุนแรงมาก โดยใบร่วงเกือบหมดทั้งต้น โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง จันทบุรี 9
และสาลิกา ส่วนพันธุ์ที่ใบร่วงเหลือใบน้อยมากประมาณ 20% ได้แก่
จันทบุรี 4 หนามดำ มูซานคิง ในขณะที่พันธุ์กบสุวรรณเหลือใบประมาณ 40-50%
แนวทางแก้ไข ใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา Fusarium ผสมกับน้ำส้มควันไม้ ฉีดพ่น 3 ครั้งทุกสัปดาห์ติดกัน
จากนั้นพบว่าทุเรียนเริ่มแตกใบอ่อน/ผลิใบอ่อนออกมา
สำหรับการผลิตทุเรียนในปี พ.ศ. 2567
และเก็บผลผลิตในปี พ.ศ. 2568 นี้การให้น้ำ ให้ปุ๋ย แตกต่างไปจากปี พ.ศ. 2566
เนื่องจากสภาพอากาศที่แตกต่างออกไป เช่น มีช่วงแล้งสลับฝนตกตั้งแต่ระยะช่อดอก
จำเป็นต้องให้ปุ๋ยที่มี K เป็นระยะทั้งการให้ทางดินและทางใบ
ดังนั้นเทคนิคสำคัญในการปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตในปี
พ.ศ. 2568 มีดังนี้
1.
ทำให้ต้นมีอาหารสะสมเพียงพอ
โดยเพิ่มการให้อาหารทางใบบ่อยขึ้น (น้ำตาลซอร์บิทอล และกรดอะมิโม)
รวมทั้งธาตุอาหารเสริม ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ทองแดง ให้ทุก 10 วัน ติดต่อกัน 6
ครั้ง
2.
ประมาณเดือนธันวาคม
2567 ต้นถูกบังแสงจากเงาของต้นนนทรี
ทุเรียนสังเคราะห์ด้วยแสงได้น้อย ต้องมีการให้อาหารเสริมทางใบ ได้แก่
น้ำตาลซอร์บิทอล และกรดอะมิโน
3.
ต้นทุเรียนต้องเผชิญกับความแล้งสลับฝนตกแล้วได้รับอุณหภูมิต่ำเป็นเวลานาน
ต้องมีการจัดการน้ำอย่างเหมาะสม
4.
ช่วงจังหวะดอกบานประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์
2568 ฝนตกหนัก ซึ่งเป็นปัญหาในการผสมเกสร ต้องใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตพืชกลุ่ม
ออกซิน (NAA) 4.5% ฉีดพ่นเพื่อช่วยการติดผล
5.
ในปี 2566
ใช้เทคนิคการผสมเกสรด้วยวิธีการปาดดอกทุเรียน
ทำให้ควบคุมปริมาณดอกที่เหมาะสมในแต่ละกิ่ง
ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีรูปร่างสมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยว สำหรับปี พ.ศ. 2568 นี้
ใช้เทคนิคการผสมเกสรด้วยวิธีปัดดอก
ซึ่งจะพบจำนวนผลที่มีลักษณะบิดเบี้ยวเกิดขึ้นมากกว่า
ในปี พ.ศ.2568 ทุเรียนออกดอก ติดผล ทั้งหมด 5 พันธุ์ จำนวนประมาณ 60
ผล ได้แก่
1.
พันธุ์มูซานคิง
ไว้ผลจำนวน 15 ผล ปี 2566 (5 ผล)
2.
พันธุ์หนามดำ
ไว้ผลจำนวน 1 ผล (10 ผล)
3.
พันธุ์กบสุวรรณ
ไว้ผลจำนวน 36 ผล (13 ผล)
4.
พันธุ์จันทบุรี
9 ไว้ผลจำนวน 1 ผล (5 ผล)
5.
พันธุ์จันทบุรี
1 ไว้ผลจำนวน 7 ผล
(ส่วนพันธุ์หมอนทองออกดอก แต่ไม่ติดผล)
เมื่อพิจารณาอายุผลที่เก็บเกี่ยว พบว่า ในปี พ.ศ. 2568
ทุเรียนแก่เร็วกว่าปี พ.ศ. 2566 ประมาณ 10 วัน ดังตาราง
พันธุ์ |
อายุวันเก็บเกี่ยว
(DAA) |
|
|
|
|
ปี
2566* |
ปี
2568** |
มูซานคิง |
90
|
85-87 |
76-80 |
หนามดำ |
100 |
90-92 |
ครบ
90 วัน 30 พ.ค. |
จันทบุรี
1 |
105 |
- |
92
วัน |
กบสุวรรณ |
110 |
105 |
95
วัน (รุ่นที่
2 ประมาณวันที่ 10 มิ.ย. เหลือผลรุ่น 2 ***การแก่เร็วขึ้น) |
จันทบุรี
9 |
130 |
100 |
90
วัน |