สาระดีดีนิวส์ไทม์

ARDA เขย่าวงการทะเลไทย โชว์นวัตกรรม “ปะการังอ่อนเพาะได้ครั้งแรกของไทย


 

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร “Smart Sea – Smart Farm : นวัตกรรมเกษตรจาก ARDA” ระหว่างวันที่ 21–22 กรกฎาคม 2568 นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดชลบุรี เยี่ยมชมนวัตกรรมการขยายพันธุ์ปะการังอ่อน สำเร็จครั้งแรกของประเทศไทย พร้อมปล่อยสัตว์ทะเล จำนวน 5,002,552 ตัว ได้แก่ แม่ - ลูกปูม้า หอยหวาน ฉลามกบ หมึกกระดอง ฟื้นความสมบูรณ์ท้องทะเลไทย



ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ARDA ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนวัตกรรมงานวิจัยให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าและความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยตลอดจนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ และนโยบายกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) ที่ขับเคลื่อนโดยสกสว. ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ





ทั้งนี้ ARDA ได้ผนึกกำลังศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์ทะเลเกาะสีชังโดยชุมชนเพื่อชุมชนยั่งยืนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เพาะขยายพันธุ์ “ปะการังอ่อน” 6 ชนิด สำเร็จครั้งแรกของประเทศ ภายใต้โครงการขยายพันธุ์ปะการังอ่อนสู่การใช้ประโยชน์จริงเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศชายฝั่งที่เสื่อมโทรมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกลุ่มเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยมี ผศ.ดร.นิลนาจ ชัยธนาวิสุทธิ์ เป็นหัวหน้าโครงการฯ เพื่อขยายพันธุ์ปะการังอ่อนด้วยระบบการทำฟาร์มบนบก ผ่านธนาคารกล้าปะการังอ่อนแบบมีส่วนร่วม CU–ARDA ซึ่งเป็นการสนับสนุนทุนวิจัยต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ถือเป็นต้นแบบการฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศชายฝั่งที่เสื่อมโทรม โดยนำร่องในพื้นที่ 5 เกาะ ได้แก่ เกาะสีชัง เกาะร้านดอกไม้ เกาะขามใหญ่เกาะขามน้อย และเกาะโปรง




   ปัจจุบันโครงการฯ ผลิตกล้าปะการังอ่อนได้มากกว่า 3,400 ต้น และจากการประเมินอัตราการรอดโดยเฉพาะปะการังอ่อนหนังดอกเห็ดมีอัตราการรอดสูงถึง 100% ระบบนิเวศทางทะเลเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด สัตว์น้ำที่ไม่ค่อยได้พบเห็นเริ่มกลับมาให้เห็นอีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าสัตว์น้ำในพื้นที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้กิจกรรมของประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งในช่วงที่ดำเนินโครงการสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่มากกว่า 3 ล้านบาท จากผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 7,200 คน โดยในอนาคตเตรียมเสนอกรมประมงปลดล็อกปะการังอ่อนจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อเปิดทางสู่การเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์อย่างถูกกฎหมาย เสริมรายได้ชุมชนชายฝั่ง ผลักดันไทยสู่การเป็นผู้นำตลาดสัตว์ทะเลสวยงามของโลกภายใต้แนวคิด BCG และ Blue Economy เพื่ออนาคตทะเลไทยที่ยั่งยืน

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า
สาระดีดีนิวส์ไทม์
สาระดีดีนิวส์ไทม์
สาระดีดีนิวส์ไทม์