ทุกปีในช่วงที่อากาศเริ่มเย็นลง ภาพของผู้คนมากมาย
ตั้งแต่เด็กนักเรียนตัวน้อยไปจนถึงผู้สูงอายุ
ที่เดินทางมารับเสื้อกันหนาวสีส้มจากสยามคูโบต้า
กลายเป็นภาพคุ้นตาที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ภาพเหล่านั้นไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำ ตลอด 25 ปีของโครงการ
“คูโบต้าพลังใจสู้ภัยหนาว”
หากย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ภาพแรกเกิดจาก “ความห่วงใย”
อันเรียบง่ายของสยามคูโบต้าที่มีต่อผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ทุกครั้งที่ลมหนาวพัดแรง
คำถามหนึ่งจะผุดขึ้นมาเสมอ
“อะไรคือสิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดในวันที่อากาศหนาวจัด”
คำตอบนั้นไม่ซับซ้อนเลยคือ “เสื้อกันหนาวอุ่น ๆ สักตัว”
ที่จะช่วยให้ผ่านคืนหนาวไปได้อย่างสบายใจ จากความคิดเล็ก ๆ นี้
สยามคูโบต้าจึงเริ่มออกเดินทาง
จัดกิจกรรมเล็กเพื่อส่งมอบเสื้อกันหนาวให้กับพี่น้องในพื้นที่ทุรกันดาร
และจากวันนั้น “การเดินทางของเสื้อสีส้ม” ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เบื้องหลังเสื้อทุกตัวคือแรงใจจากผู้คนมากมายที่ร่วมทำให้ภารกิจนี้เกิดขึ้นจริง
ตั้งแต่ทีมงานสยามคูโบต้าที่ทุ่มเทเตรียมงานทุกขั้นตอน
กองทัพบกและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ช่วยคัดเลือกพื้นที่ซึ่งขาดแคลนมากที่สุด
ไปจนถึงหน่วยงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดที่ร่วมอำนวยความสะดวกให้การเดินทางเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที
ทุกขั้นตอนล้วนเต็มไปด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การวางแผนเส้นทาง
การคัดสรรจำนวนและขนาดของเสื้อให้เหมาะกับเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
เพื่อให้ทุกคนได้รับ “ความอบอุ่น” อย่างที่ตั้งใจไว้ นอกจากนี้
ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายสยามคูโบต้าทั่วประเทศยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ
ด้วยการมอบของใช้จำเป็นเพิ่มเติมให้กับชุมชนในพื้นที่ที่เราเดินทางไปถึง
ทุกแรงใจและความร่วมมือเหล่านี้หลอมรวมกันเป็นภาพใหญ่ของความผูกพัน ที่ทำให้คำว่า
“ไม่ทิ้งกัน” ของคูโบต้า มีชีวิตอยู่จริงในทุกฤดูหนาว
เรื่องราวของโครงการนี้ยังคงสืบต่อผ่านเสียงของผู้คนในพื้นที่
นายจันทร์เพชร มรดกดอย ผู้ใหญ่บ้านแม่หละคี จังหวัดตาก
เล่าย้อนถึงความทรงจำเมื่อปี 2565 ว่า “ผมยังจำได้ดี
วันที่สยามคูโบต้ามาแจกเสื้อกันหนาวให้ชาวบ้าน ทุกคนดีใจกันมาก
เพราะเสื้อตัวนั้นไม่ใช่แค่ช่วยกันหนาว แต่ทำให้รู้สึกว่า...เรามีคนห่วงใย
ผมเคยไปหมู่บ้านอื่นแล้วเห็นคนใส่เสื้อแบบเดียวกัน เราทักกันทั้งที่ไม่รู้จักกัน
เหมือนเราเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่มีความอบอุ่นจากน้ำใจเดียวกัน”
เช่นเดียวกับ “น้องต้นข้าว” เด็กหญิงธนัชพร วรรณเวช
จากโรงเรียนอนุบาลบ้านด่านโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
ที่เคยได้รับเสื้อกันหนาวจากโครงการเดียวกันเล่าว่า
“หนูได้รับเสื้อกันหนาวตัวนี้เมื่อสองปีก่อน
ทุกวันนี้หนูอยู่ชั้นมัธยมแล้วก็ยังใส่ได้อยู่ อุ่นเหมือนเดิมเลยค่ะ ขอบคุณพี่ ๆ
สยามคูโบต้าที่มาแจกเสื้อสวย ๆ ให้หนูและเพื่อน ๆ ได้หายหนาวค่ะ”
เรื่องเล่าของเธอทำให้เราเข้าใจว่า สำหรับผู้คนในพื้นที่ห่างไกล “เสื้อคูโบต้า”
ไม่ได้เป็นเพียงของแจกชิ้นหนึ่ง แต่คือเพื่อนคู่ใจในทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน
ทุกครั้งที่ออกทำงาน หรือแม้แต่ในวันหนาวเหน็บที่ต้องอยู่บ้าน
เสื้อหนึ่งตัวที่อบอุ่นทั้งกายและใจ”
ปัจจุบัน โครงการ “คูโบต้าพลังใจสู้ภัยหนาว” เดินทางเข้าสู่ปีที่ 26
จากกิจกรรมเล็ก ๆ ในวันนั้น
ได้เติบโตเป็นโครงการใหญ่ที่แผ่ไออุ่นออกไปดุจต้นไม้ใหญ่
แตกกิ่งก้านสาขาครอบคลุมหลายพื้นที่ทั่วภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จนถึงวันนี้ โครงการได้ส่งต่อเสื้อกันหนาวให้ผู้คนที่ขาดแคลนแล้วมากกว่า
196,000 ชีวิต และยังคงขับเคลื่อนไปด้วยแรงใจจากพันธมิตรและทีมงานอาสาจำนวนมาก
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า
ทุกครั้งที่เห็นเด็ก ๆ และพี่น้องประชาชนสวมเสื้อแล้วยิ้ม
ทีมสยามคูโบต้ารู้สึกเหมือนได้รับของขวัญกลับมา
โครงการนี้เดินทางมาถึงวันนี้ได้เพราะพลังจากพันธมิตรและทีมงานอาสาที่ร่วมแรงร่วมใจ
สยามคูโบต้าเราภูมิใจ อิ่มเอมใจทุกครั้ง
และอยากทำให้ความอบอุ่นนี้แผ่ขยายออกไปในทุก ๆ ปี เพราะเสื้อทุกตัวที่เราส่งมอบ
ไม่ได้เป็นเพียงเสื้อกันหนาว แต่คือ ‘พลังใจ’
ที่หลอมรวมความตั้งใจของสยามคูโบต้าและพันธมิตรไว้ด้วยกัน
และวันนี้ เรื่องราวของเสื้อกันหนาวสีส้มยังคงเดินทางต่อไป
พร้อมเสียงหัวเราะ ความหวัง และรอยยิ้มของผู้คนที่รอคอย
“เสื้อที่มากกว่าความอบอุ่น” เพราะสำหรับพวกเขา
เสื้อหนึ่งตัวนี้ไม่ได้วัดเพียงอุณหภูมิของอากาศ แต่คืออุณหภูมิของหัวใจของผู้ให้
และผู้รับที่เชื่อมถึงกัน แม้ฤดูกาลจะผันผ่าน
แต่ความหมายของเสื้อกันหนาวสีส้มก็ยังคงเดิมเป็นสัญลักษณ์ของ “ไออุ่น”
ที่บอกกับทุกคนว่าในหน้าหนาวนี้ พวกเขาไม่ได้อยู่ลำพัง