กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สรุปผลงานประจำปี 2566
ชูพัฒนาศักยภาพด้านการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
สร้างเสริมนวัตกรรมการให้บริการ เพิ่มความเข้มข้นการตรวจสอบบัญชีและการควบคุมภายใน
พร้อมเดินหน้าพัฒนาศักยภาพเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรคุณภาพ
สร้างรายได้หมุนเวียนในชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นางสาวอัญมณี ถิรสุทธิ์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กล่าวสรุปผลการดำเนินงานและการปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณ 2๕6๖ ว่า
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ภายใต้วิสัยทัศน์“ตรวจสอบบัญชีและส่งเสริมการทำบัญชี เพื่อสร้างความเข้มแข็ง
โปร่งใสแก่สหกรณ์และเกษตรกร”
เพื่อยกระดับความสามารถการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีและการควบคุมภายในของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
การใช้ข้อมูลทางบัญชีและนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการอย่างทันต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดทำบัญชีให้แก่สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และประชาชน
เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกร
รวมทั้งเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ เกษตรกร มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีวินัยในการใช้จ่ายเงิน
โดยมีผลดำเนินงานตามภารกิจหลัก ดังนี้
ด้านการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร กรมฯ
ได้มุ่งเน้นการตรวจสอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ
พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว
สร้างระบบการกำกับดูแลและตรวจสอบคุณภาพการสอบบัญชีสหกรณ์อย่างเข้มข้น
เตรียมความพร้อมพัฒนาสู่มาตรฐานการบริหารคุณภาพงานสอบบัญชี (TSQM) ด้วยมุ่งหวังให้สหกรณ์มีระบบบริหารจัดการด้านการเงินที่ดี
สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิกได้
โดยในปีงบประมาณ 2566 มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการตรวจสอบบัญชีแล้ว 11,444
แห่ง สามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินได้ 8,599 แห่ง
ด้านการพัฒนาศักยภาพด้านบริหารจัดการทางการเงินแก่สถาบันเกษตรกร กรมฯ
ได้สอนแนะการจัดทำบัญชี เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรมีความสามารถในการจัดทำบัญชีและงบการเงิน
ส่งเสริมให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดี สร้างธรรมาภิบาลในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
โดยมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้รับการพัฒนาในหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง 450 แห่ง
แบ่งเป็น กรรมการดำเนินการสหกรณ์ 500 ราย ฝ่ายจัดการ 300 ราย ผู้ตรวจสอบกิจการ 250
ราย เจ้าหน้าที่บัญชี 400 ราย
รวมถึงมีการพัฒนาศักยภาพในการจัดทำบัญชีและการนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ในการบริหารจัดการแก่วิสาหกิจชุมชน
954 แห่ง ทั้งนี้ กรมฯ
ยังได้ส่งเสริมให้สหกรณ์ใช้งานโปรแกรมระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร (Full Pack Account Software) ซึ่งปัจจุบัน
มีสหกรณ์ที่ใช้บริการแล้ว 1,789 แห่ง รวมถึงการส่งเสริมให้สหกรณ์ คณะกรรมการ
ฝ่ายจัดการ และสมาชิกใช้งานแอปพลิเคชัน SmartMember และ SmartManage
ด้านการส่งเสริมการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกรและประชาชน กรมฯ มุ่งการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนและการใช้ข้อมูลทางบัญชีในการประกอบอาชีพแก่เกษตรกรและประชาชน ให้สามารถจัดทำบัญชีได้ ใช้ข้อมูลทางบัญชีเป็น ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และมีเงินออม รวมถึงการต่อยอดให้เกษตรกรรุ่นใหม่พัฒนาสู่การเป็น Smart Farmer และการขยายผลเครือข่ายชุมชนคนทำบัญชี สามารถพัฒนาไปเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรได้ มีการจัดทำแผนธุรกิจ รู้จักการคำนวณต้นทุน มองเห็นช่องทางการต่อยอดผลผลิตต่าง ๆ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยในปี 2566 มีเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับการส่งเสริมการจัดทำบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือน 34,557 ราย และบัญชีต้นทุนอาชีพ 24,713 ราย
ในปีงบประมาณ 2567 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
ยังคงมุ่งเน้นการปฏิบัติงานในภารกิจหลักในการสร้างสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเข้มแข็ง
โดยเฉพาะในมิติประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และมิติประสิทธิภาพในการจัดการองค์กร
โดยการขับเคลื่อนโครงการ “THINK & DO TOGETHER” บูรณาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนแก่สหกรณ์
ซึ่งกรมฯ
มีแผนจะต่อยอดการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องทุกจังหวัดทั่วประเทศในปี
2567 โดยเริ่มดำเนินการนำร่องแล้วในปี 2566 รวม 21 รุ่น มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ
134 สหกรณ์ จำนวนผู้เข้าอบรมรวม 1,049 คน เพื่อเป็นการยกระดับความสามารถในการบริหารจัดการด้านการเงินการบัญชีและการควบคุมภายในให้กับสหกรณ์
มุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือ 5 ประสาน ได้แก่ คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์
ฝ่ายจัดการสหกรณ์ ผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ ผู้สอบบัญชีสหกรณ์ (กรมตรวจบัญชีสหกรณ์)
และผู้ตรวจการสหกรณ์ (กรมส่งเสริมสหกรณ์)
“สำหรับนโยบายในปีหน้า
ได้วางแผนขับเคลื่อนการสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ โดยมุ่งเน้นให้สหกรณ์ยกระดับการควบคุมภายในให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดี
ขับเคลื่อนผ่านการบูรณาการร่วมกัน ภายใต้โครงการ “THINK
& DO TOGETHER” ยกระดับคุณภาพงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี
พัฒนาความรู้ความสามารถของผู้สอบบัญชี ซึ่งกรมฯจะออกนโยบายควบคุมคุณภาพออกมารองรับ
เพื่อให้ผู้สอบบัญชีได้นำไปถือปฏิบัติ
สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้รายงานทางการเงินของสหกรณ์
รวมไปถึงภารกิจในการเสริมสร้างองค์ความรู้และสอนแนะการจัดทำบัญชีให้เกษตรกร
เยาวชนและประชาชน ให้มีวินัยทางการเงิน
เกษตรกรสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมให้มีความยั่งยืน
ภายใต้กลไกการทำบัญชี” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าว.