“ข้าว” เป็นอาหารหลักของคนไทย
และเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทยจากการส่งออกมายาวนาน
แต่ในปี 2565 ไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าวให้กับเวียดนาม
ผลผลิตของข้าวไทยและการแข่งขันข้าวในตลาดโลกของไทยร่วงลงมาอยู่อันดับ 3 โดนเวียดนามแซงขึ้นเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ
2 ของโลก ซึ่งเดิมเวียดนามส่งออกข้าวประมาณ 7 ล้านตันต่อปี แต่เพียงแค่ 8 เดือน
เวียดนามส่งออกถึง 5.81 ล้านตัน แซงหน้าไทยที่ส่งออกได้เพียง 5.27ล้านตัน
จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
อีกทั้ง คาดการณ์ล่าสุดของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรภายใต้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า การผลิตข้าวไทยจะลดลง 871,000 ตัน ข้าวเปลือก ลดลง
3.27% เหลือ 25.8 ล้านตัน ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวปี 2566-2567
โดยมีสาเหตุหลักมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป
และนอกจากปัญหาสภาพดิน ฟ้า อากาศ ที่ยากจะควบคุมแล้ว
ผลผลิตข้าวของไทยยังมีความเสี่ยงลดลงเนื่องจาก แมลงศัตรูพืช และ “โรคในนาข้าว”
ที่ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อผลผลิตและคุณภาพ ทำให้ได้ผลผลิตในปริมาณที่ต่ำลง
โรคที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ อาทิ โรคกาบใบแห้งหรือราหลุม โรคเมล็ดด่าง และโรคใบจุดสีน้ำตาล
ซึ่งทั้งหมดเป็นโรคที่เกิดจาก “เชื้อรา”
เกษตรกรจึงจำเป็นต้องรู้วิธีการป้องกันและจัดการเพื่อควบคุมโรคและวงจรของโรคในพื้นที่ปลูกข้าวให้ได้มากที่สุด
ดังนั้น บริษัท ซินเจนทา ประเทศไทย
ผู้นำในด้านโซลูชั่นส์ด้านการเกษตรยุคใหม่ จึงมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยป้องกันการเกิดปัญหาโรคในนาข้าว
ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ ชื่อว่า “รีเฟลกซ์ อีโว่”
พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีความรู้การป้องกันโรคในนาข้าวในกับพี่น้องเกษตรกรชาวนา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การเรียนรู้ซินเจนทา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
ซึ่งมีกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวและเกษตรกรมืออาชีพ จากจังหวัดนครสวรรค์
กำแพงเพชร ชัยนาท สุพรรณบุรี พิษณุโลก และ นนทบุรี จำนวนมากกว่า 400 คน
เข้าร่วมงานในครั้งนี้
นางสาวสุนิสา จัตุพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซินเจนทา ครอป
โปรเทคชั่น จํากัด กล่าวว่า “โรคในนาข้าวถือเป็นอุปสรรคอย่างมากของเกษตรกรชาวนา
ไม่ว่าจะเป็น โรคกาบใบแห้งหรือราหลุม โรคเมล็ดด่าง โรคใบจุดสีน้ำตาล
ก่อให้เกิดปัญหาตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะช่วงข้าวกัดหางปลาทู
ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่สำคัญในการสร้างรวงและการพัฒนาเกสร
ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเมล็ดข้าวที่มีคุณภาพ ข้าวเต็มเมล็ด
ดังนั้นความท้าทายของซินเจนทาคือการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆที่สามารถช่วยตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรชาวนาให้สามารถปลูกข้าวได้โดยปราศจากโรคพืช
เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ
ซึ่งนวัตกรรมนี้มีชื่อว่า “รีเฟลกซ์ อีโว่”
“รีเฟลกซ์ อีโว่” ได้รับอนุมติขึ้นทะเบียนในประเทศไทยเมื่อปี 2021
สำหรับป้องกันกำจัดโรคกาบใบแห้ง โรคเมล็ดด่างในนาข้าว
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงมีสารออกฤทธิ์เรียกว่า “ไอโซไพราแซม” ทำหน้าที่เกาะติดกับใบพืชเคลือบอยู่ที่ชั้นผิวใบหลังจากทำการฉีดพ่นสาร
สามารถช่วยปกป้องต้นข้าว แม้ต้องเผชิญอยู่ในสภาพอากาศที่มีฝนหรือแสงแดดก็ตาม
และปกป้องพืชได้ยาวนาน ซึ่งหากข้าวถูกโรคเชื้อราหรือโรคพืชเข้าทำลาย “ไอโซไพราแซม”
จะทำหน้าที่ล็อคเชื้อราและยับยั้งการทำงานของเชื้อราและกำจัดโรคพืชให้หมดไป
ทำให้ต้นข้าวปลอดจากโรคเชื้อรา มีเกสรผสมสมบูรณ์ ออกรวงอย่างสม่ำเสมอ
และเมล็ดแกร่ง ได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
นายณัฐวุฒิ ผึ้งเถื่อน และ นางสาวพรรษา น้อยเปลี่ยน
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า
“ผมกับภรรยาทำนามา 16 ปี ทดลองใช้ ‘รีเฟลกซ์ อีโว่
ครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยแบ่งฉีดเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
พบว่าข้าวที่ปลูกพันธุ์เดียวกันมีใบธงสีเขียวและมีขนาดใหญ่กว่า ไม่มีโรค
ไม่เป็นรากระถิน ส่วนแปลงข้างกันที่ไม่ได้ฉีดประมาณ 20 ไร่ จะมีรากระถินเยอะ
เมื่อเทียบกันแล้วแปลง 10 ไร่ ที่ใช้ ‘รีเฟลกซ์ อีโว่’ ได้ผลผลิตประมาณ 10-11
เกวียน ส่วนแปลง 20 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 18 เกวียน หรือประมาณ 9 เกวียนต่อ 10 ไร่
ซึ่งเราทำนา 3 ครั้ง ต่อปี เมื่อก่อนราคาข้าวเปลือกประมาณ 7-8 พันบาท ต่อเกวียน
ปัจจุบันราคาขึ้นมาประมาณหมื่นกว่าบาทต่อเกวียน
เราก็มีรายได้เพิ่มขึ้นบวกกับการมีตัวช่วยป้องกันโรคในนาข้าว
ยิ่งทำให้เรามีผลผลิตที่ดี ข้าวมีเมล็ดที่ใส สวย มีคุณภาพ
สามารถนำไปขายเป็นแม่พันธุ์ดีได้อีกด้วย
“งานนี้เราได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้ความรู้ในการป้องกันโรคในนาข้าว
ซึ่งพี่น้องเกษตรกรสามารถเห็นถึงความแตกต่างระหว่างการใช้สารตามวิถีของเกษตรกร
และวิธีการใช้นวัตกรรมของซินเจนทาในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของต้นข้าว
เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาไทยสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการปลูกข้าวที่ปลอดโรค
ให้ผลผลิตที่สมบูรณ์ แข็งแรง เป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น
โดยซินเจนทามีความมุ่งหวังว่า
นวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยพยุงระดับผลผลิตของเกษตรกรซึ่งจะส่งผลช่วยให้ผลผลิตข้าวในระดับประเทศมั่นคงขึ้น
ดันอันดับการส่งออกข้าวไทยให้ก้าวขึ้นมาอีกระดับ” นางสาวสุนิสา กล่าวเสริม