รัฐบาลมอบนโยบายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และภาคเหนือ
คืนอากาศดีให้พี่น้องประชาชน และเพื่อการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข
วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายราเชน ศิลปะรายะ
รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านการปฏิบัติการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าภารกิจการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพของพี่น้องประชาชน ณ
ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน ภายในท่าอากาศยานหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พร้อมกล่าวว่า ทุกปีประเทศไทยมักประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5
โดยมอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร แก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กให้กับพื้นที่ต่าง
ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งจากการเผาป่า การก่อสร้าง การคมนาคมและอุตสาหกรรม
โดยภารกิจดังกล่าวได้น้อมนำศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทาน
ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
มาดัดแปรสภาพอากาศ ซึ่งขอให้มั่นใจได้ว่าผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 จะลดลง และประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
และย้ำว่ารัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน
ในทุกพื้นที่
รวมถึงขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงและปลอดภัย
ด้าน นายราเชน ศิลปะรายะ
รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มเติมว่า
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดทำแผนการดัดแปรสภาพอากาศ ประจำปี 2568
เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงและการดัดแปรสภาพอากาศบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
เกินเกณฑ์มาตรฐาน เริ่มปฏิบัติการเชิงรุกตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2567 เป็นต้นมา โดยมีหน่วยปฏิบัติการ 6 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดระยอง จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดตาก
จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแพร่
เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละลองในอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และพื้นที่ภาคเหนือ
สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงและปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ มีจำนวน 3 เทคนิค ได้แก่
1. การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการก่อกวน
โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 1 (โซเดียมคลอไรด์)
ปฏิบัติการบริเวณต้นลม
และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่เพื่อก่อเมฆและเพิ่มปริมาณเมฆในพื้นที่เป้าหมาย
2. การปฏิบัติการฝนหลวงในขั้นตอนการเลี้ยงให้อ้วน
โดยใช้สารฝนหลวงสูตร 8 แคลเซียมออกไซด์ หรือสูตร 6 แคลเซียมคลอไรด์ ปฏิบัติการบริเวณต้นลม และโดยรอบมวลของฝุ่นบริเวณพื้นที่
เพื่อเลี้ยงเมฆให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแรงดูดซับฝุ่นละออง
3. การปฏิบัติการเทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผัน
โดยการโปรยน้ำแข็งแห้งหรือการสเปรย์น้ำเพื่อระบายฝุ่นละอองบริเวณระดับ inversion
(ชั้นอุณหภูมิผกผัน) หรือสูงกว่าระดับ inversion (ชั้นอุณหภูมิผกผัน)
เพื่อทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบน
สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า
การปฏิบัติการด้วยเทคนิคทั้งหมดดังกล่าวลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผันโดยการโปรยน้ำแข็งแห้งหรือการสเปรย์น้ำเพื่อทำให้เกิดช่องระบายฝุ่นละอองขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
และพื้นทีทำให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศลดลงได้และส่งผลให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง
และระดับดีตามลำดับ ทั้งนี้
กรมฝนหลวงและการบินเกษตรพร้อมปฏิบัติภารกิจทุกวันอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองตามนโยบายจากรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและพื้นที่ภาคเหนือ
เพื่อให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้
ประชาชนมีคุณภาพอากาศที่ดีท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข